สำหรับใครที่ชอบอ่านนิยายแล้วโดนพ่อแม่ว่า ว่าทำให้เสียการเรียน วันนี้นะครับกรุณาไปบอกพวกท่านใหม่เลยว่า …ไม่จริงแน่นอน มีผลทางวิทยาศาสตร์บอกมาแล้วว่าการอ่านหนังสือนิยายบ่อยๆจะช่วยทำให้สมองดีขึ้นในหลายๆด้านเลยแหละ ไม่เชื่อลองอ่านดูเลยจ้าาา
หนังสือช่วยสร้างตัวตนให้แก่คุณ
เรื่องราวสุดแสนประทับใจที่คุณได้อ่าน จะติดวนเวียนอยู่ในหัวคุณตลอดเป็นเวลาสองสามวันและจะค่อยๆเลือนไป อย่างไรก็ดีการอ่านหนังสือที่ชอบ ทำให้บุคลิคเราเปลี่ยนตามหนังสือนั้นๆได้ เพราะเรื่องราวในหนังสือจะช่วยตีกรอบชีวิตคุณ นำพาคุณไปยังที่ชอบๆได้
การทดลองของเกรกอรี่ เบิร์น
หลังจากทำการทดลองให้ผู้เข้าทดสอบทั้ง 21 คน อ่านหนังสือนิยาย แล้วนำไปเข้าเครื่องตรวจประสาทสมอง เกรกอรี่ก็พบว่า การที่คนเราจะทำอะไรนั้น สมองซีกซ้ายจะสั่น เส้นประสาทจะมีการเกร็งเล็กน้อย แล้วส่งผลให้เกิดการกระทำขึ้น เช่นเราคิดว่าจะเดิน สมองซีกซ้ายก็จะส่งสารประสาททำให้เราเกิดการเดินขึ้น เช่นเดียวกัน เมื่อเราอ่านนิยายแล้วมีความคิดอะไรมากๆ มันก็จะอยู่ในหัวเรา แล้วก็จะส่งผลให้เกิดการกระทำขึ้น
สรุปการทดลอง
เบิร์นค้นพบว่า ทุกคนที่อ่านนิยายนั้น ต่างจินตนาการว่าตัวเองเป็นตัวเอก ไม่ค่อยมีใครคิดว่าตัวเองจะเป็นตัวร้ายที่น่าเกลียดซึ่งการที่่เราสมมติร่างใหม่เราขึ้นมานั้น ทำให้เกิดทฤษฎีฝังรากขึ้นในหัว ทำให้เราเป็นคนคล้ายๆแบบนั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญในวัยเด็ก ที่สมควรอ่านหนังสือเยอะๆ เพราะทำให้เราได้สร้างพัฒนาการความคิดขึ้นในหัว นั่นเอง
การพัฒนาความคิดสามารถทำได้ทุกช่วงอายุ การอ่านมากๆ ยิ่งทำให้เรารู้มากขึ้น เข้าใจโลกได้มากขึ้น นอกจากนี้ การอ่านหนังสือที่หลากหลายจะทำให้เพื่อนๆได้ความรู้รอบตัวมากขึ้นยิ่งกว่าเรียนในห้องเรียนอีกด้วย เพราะบางทีเราก็เรียนผ่านมาแล้วผ่านไป แต่การอ่านนิยายเราจะได้ความรู้ที่นักเขียนไปค้นคว้ามาด้วย แถมเรื่องราวก็ยังสนุกอีก แค่นี้ทำไมเราจะจำไม่ได้ล่ะใช่ไหม และเราก็ต้องอ่านอย่างเหมาะสม อย่าให้เสียการเรียนล่ะ พ่อแม่ท่านคงไม่ว่าถ้าเราจะอ่านหนังสือ แต่ที่ท่านว่า เป็นเพราะเราไม่อ่านหนังสือเรียนเลยต่างหาก อิอิ
source: lifehack