หากคุณได้เสพข่าวตามสื่อต่างๆ คุณจะทราบว่าเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้มีแนวโน้มที่จะทำสงครามกันอยู่บ่อยครั้ง ถึงแม้ว่าทั้งสองประเทศจะเคยเป็นหนึ่งเดียวกันมาก่อน ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ใครหลายคนเกิดข้อสงสัยต่างๆว่า ความจริงแล้ว เรื่องราวของระหว่างสองประเทศนี้เป็นอย่างไรกันแน่?
และนี่คือการไข้ข้อสงสัย 5 ข้อ ประเด็นเกาหลีเหนือ – เกาหลีใต้ ที่จะทำให้คุณเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น!!
1. ทำไมถึงมีเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้
ก่อนที่จะมีเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ คาบสมุทรปกครองโดยราชวงศ์ Choson ซึ่งมีมานานกว่าห้าศตวรรษ หลังจากนั้นเกิดการผนวกรวมกับคาบสมุทรของญี่ปุ่น การปกครองอาณานิคมของญี่ปุ่นจึงใช้เวลา 35 ปี
เมื่อญี่ปุ่นยอมจำนนต่อฝ่ายพันธมิตรเมื่อปี 1945 คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งออกเป็นสองโซน คือ เกาหลีใต้ที่ควบคุมโดยสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือที่ควบคุมโดยโซเวียต ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสงครามเย็นที่เกิดขึ้นระหว่างกรุงมอสโกและกรุงวอชิงตันในปี 1948
รัฐบาลสองแห่งได้จัดตั้งขึ้นในกรุงเปียงยางและกรุงโซล Kim Il-Sung ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นอดีตกองโจรที่ต่อสู้ภายใต้คำสั่งของจีนและรัสเซีย Syngman Rhee ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านคอมมิวนิสต์ใน Princeton University ได้กลายเป็นผู้นำคนแรกของเกาหลีใต้
ในความพยายามที่จะรวมกันของคาบสมุทรเกาหลีภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์ Kim Il-Sung บุกเกาหลีใต้ในเดือนมิถุนายน 1950 แต่ด้วยความช่วยเหลือของสหภาพโซเวียต ทำให้เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติเพื่อต่อสู้กับสาธารณรัฐประชาชนจีนและเกาหลีเหนือที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นทีหลัง จึงทำให้เกิดสัญญายุติสงครามสงครามเกาหลีในปี 1953
2. นอกจากความแตกแยกทางการเมืองแล้ว ชาวเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมหรือไม่?
ชาวเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ แยกจากกันเกือบ 70 ปีแล้ว แต่ความทรงจำในประวัติศาสตร์ของเกาหลีที่มีเอกราชมานับพันปีทำให้เกาหลีมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและภาษา
เช่น ทั้งสองประเทศมีประวัติศาสตร์ด้านการต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยมของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญในการรักชาติ นักเรียนชาวเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับขบวนการอิสรภาพ 1 มีนาคม 1919 ที่โรงเรียน
54% ของชาวเกาหลีเหนือที่ลี้ภัยในเกาหลีใต้สามารถเข้าใจภาษาเกาหลีใต้ มีเพียง1%เท่านั้นที่ไม่สามารถเข้าใจอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม การเมืองที่แตกต่างกันของเกาหลีเหลือและเกาหลีใต้ทำให้มุมมองด้านการใช้ชีวิตแตกต่างไปด้วย นับตั้งแต่มีการแบ่งแยกประเทศ ประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวาของเกาหลีใต้เป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวของนักศึกษา ปัญญาชน และชนชั้นกลาง แต่สำหรับเกาหลีเหนือยังคงมีโฆษณาชวนเชื่อของรัฐ และอุดมการณ์ของ Juche หรือ “การพึ่งพาตนเอง” ที่ถูกนำมาใช้ในการปกครองประเทศโดยตระกูลคิม
3. เราได้เรียนรู้อะไรจากผู้อพยพชาวเกาหลีเหนือที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้
เมื่อเดือนกันยายน 2016 มีผู้อพยพชาวเกาหลีเหนือได้มาพำนักในเกาหลีใต้ประมาณ 29,830 คน ชาวเกาหลีใต้ได้เรียนรู้ชีวิตประจำวันของชาวเกาหลีเหนือ เช่น แม้ว่าจะมีการปราบปราม ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่มักเฝ้าดูละครทีวีของเกาหลีใต้
ในเกาหลีเหนือ รัฐมีวิธีรักษาระบอบการปกครองโดยวิธีข่มขู่และลงโทษ เพื่อให้ให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว นอกจากนี้ มีชาวเกาหลีเหนือบางคนเลือกละทิ้งประเทศตนเองเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและความอดอยากมากกว่าปัญหาทางการเมือง
4. ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯคืออะไร และพวกเขาอยู่ฝ่ายไหนกันแน่?
จุดมุ่งหมายของการเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯกับเกาหลีใต้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ. ศ. 2495 ซึ่งเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามต่อเนื่องจากเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯยังคงเป็นพันธมิตรกับเกาหลีใต้เพื่อปกป้องภัยคุกคามในรูปแบบเดิมๆ เช่น การก่อการร้าย การแพร่กระจายของอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง และความท้าทายระดับโลกในรูปแบบอื่น ๆ ได้แก่ การละเมิดลิขสิทธิ์และโรคระบาดในขณะที่มีการประสานงานเพื่อต่อสูกับเกาหลีเหนือ
ในขณะนี้ Moon Jae-in ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ และ Donald Trump เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกามีความไม่แน่นอนมากขึ้น ทรัมพ์วิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงการค้าเสรีของสหรัฐฯและเกาหลีใต้ในขณะที่ยืนยันว่ากรุงโซลจะจ่ายเงินให้กับ THAAD ซึ่งเป็นระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯที่ใช้ในเกาหลีใต้
แต่แท้จริงแล้วการปรองดองกันระหว่างเกาหลีคือความสำคัญสูงสุดของเขา ซึ่งอาจกระทบกับแนวทางในปัจจุบันของสหรัฐฯในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ
5. การรวมประเทศระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้จะเป็นไปได้หรือไม่?
มากกว่าครึ่งหนึ่งของชาวเกาหลีใต้เชื่อว่าการรวมตัวเป็นสิ่งจำเป็น แต่พวกเขาไม่คิดว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้ในเร็ว ๆ นี้ ตามการสำรวจ การรับรู้และการยอมรับในกลุ่มประเทศ ปี 2017 ที่ดำเนินการโดยสถาบันสถาบันสันติภาพและการศึกษาแห่งสหประชาชาติในกรุงโซล
พบว่า มีเพียง 2.3 เปอร์เซ็นต์ของชาวเกาหลีใต้ที่เชื่อว่าการรวมกันเป็นไปได้ “ภายใน 5 ปี” ในขณะที่ 13.6 เปอร์เซ็นต์ตอบว่า “ภายใน 10 ปี”
และ 24.7 เปอร์เซ็นต์ของชาวเกาหลีใต้ไม่คิดว่าการรวมกันจะเป็นไปได้
ที่มา: businessinsider