สำหรับวันนี้ทาง ScholarShip.in.th ขอหยิบยกอีกหนึ่งบทความดีๆ เกี่ยวกับเทคนิคในการฝึกภาษาอังกฤษมาฝากเพื่อนๆ ที่มีปัญหาในด้านนี้กันจ้า เพื่อไม่ให้เป้นการเสียเวลา เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
สมัยนี้เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ ทุกคนก็คงจะอยากฟังภาษาอังกฤษเก่งกัน เนื่องจากเหตุผลส่วนบุคลของแต่ละคน การฟัง คือพื้นฐานของภาษา อย่างที่เราเคยนำเสนอในครั้งก่อน ว่าการเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลดีนั้นควรจะเริ่มต้นจากการฟังก่อน จึงจะพัฒนาไปสู่การพูด อ่าน และเขียนในอนาคตได้นั่นเอง
สำหรับในวันนี้ เราก็มีเทคนิคดีๆ มาฝากให้คนที่อยากจะฝึกการฟังภาษาอังกฤษให้ได้ผลดี ลองมาติดตามเทคนิคง่ายๆ 3 ข้อนี้กันได้เลยนะครับ
1. ฟังจากภาพยนตร์
ข้อดีก็คือ เราจะไม่รู้สึกเบื่อ เพราะภาพยนตร์จะมีความตื่นเต้น สนุกสนาน และฟังได้เรื่อยๆ (ถ้ามันไม่น่าเบื่อจนเกินไปนะ) ซึ่งคนที่ฝึกภาษาอยู่ก็ควรเปิดเสียงภาษาอังกฤษ และเริ่มจากเปิดซับไตเติ้ลภาษาไทยไปด้วย ซึ่งหลังๆ ถ้าเริ่มเก่งแล้วอาจถึงขั้นปิดซับไปเลยก็ได้ ><”
การเริ่มต้นจากซับไตเติ้ลภาษาไทย จะช่วยให้เราเข้าใจว่าตัวละครสื่ออะไรออกมา แล้วต่อไปก็เปลี่ยนเป็นซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ เพื่อให้เห็นถึงคำศัพท์และการออกเสียง จะช่วยพัฒนาการฟังได้อย่างดีเลยล่ะ
2. ฟังเพลง
ถึงแม้ว่าการแต่งเพลงนั้น หลายๆเพลงจะขัดกับหลักแกรมม่า รวมถึงทำให้รูปประโยคผิดเพี้ยนไป แต่ก็ปฏิเสธกันไม่ได้ว่าการฟังเพลงภาษาอังกฤษจะช่วยให้เราเพลิดเพลิน และเป็นการฟังที่ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
การเริ่มต้นก็จะคล้ายๆ กับฟังภาพยนตร์ โดยการเปิดเพลงพร้อมกับดูเนื้อเพลงไปด้วย ต่อมาก็คือการฝึกร้องตาม ตรงจุดนี้นี่แหละที่จะทำให้เราได้รับรู้และออกเสียงคำศัพท์ต่างๆ ได้ฝึกพูดไปในตัวอีกด้วยแหล่ะ
3. ฟังจากสถานการณ์จริง
มาถึงจุดนี้ ภาพยนตร์ที่น่าเบื่อ หรือเพลงที่วนไปวนมาคงไม่เพียงพอ เราต้องฝึกฟังจากสถานการณ์จริงด้วย ใครที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวลองรับงานเสริมที่สามารถสื่อสารกับคนต่างชาติ หาเพื่อนต่างชาติผ่านโปรแกรมแชทต่างๆ รวมถึงการเข้าเรียนสนทนาภาษาอังกฤษ
การได้ฝึกฟังจากเจ้าของภาษา คนที่พูดเก่งๆ หรือฝึกฟังภาษาอังกฤษในสำเนียงต่างๆ (ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา) จะเป็นอีกทางที่ช่วยให้เราพัฒนาด้านการฟังได้เร็วขึ้นนั่นเองจ้า
ทั้ง 3 ข้อนี้ก็เป็นเคล็ดที่ไม่ลับที่จะช่วยให้เพื่อนๆ ได้พัฒนาทักษะในด้านการฟังภาษาอังกฤษกันให้มากขึ้นนะจ๊ะ รับรองว่าถ้าหากฝึกตามนี้ อาจจะกลายเป็นโปรด้านภาษากันอย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว แล้วมาพบกับบทความดีๆ เกี่ยวกับการศึกษาจากรอบโลกได้กับ ScholarShip.in.th นะครับ
Source: WeGoInter