ใครที่มีความฝันอยากไปกินลมชมวิว ขับรถเล่นที่ถนนในต่างประเทศ วันนี้เรามีภาพถนนสวยๆ วิวทิวทัศน์ธรรมชาติแบบภูเขา ป่า ทะเล มาฝากคนที่รักธรรมชาติกันเลยจ้า
อันดับ 1″ถนนทางหลวงหมายเลข 1 บิ๊กเซอร์, แคลิฟอร์เนีย”
ด้วยระยะทางกว่า 140 กิโลเมตร จากซาน คาร์โปโฟโร ไปจนถึงแม่น้ำคาร์เมล ถนนสายนี้ จีงถูกโอบล้อมวิวทิวทัศน์ที่หลากหลาย จากหน้าผาเลียบชายฝั่ง ไปจนถึงป่าทึบ และเป็นถนนที่ตัดเลียบชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือได้ว่าเป็นชายฝั่งที่มีความงดงามที่สุดในสหรัฐฯ
อันดับ 2 “เฟอร์กา พาส, สวิตเซอร์แลนด์”
ถนนเส้นนี้ได้ตัดผ่านเทือกเขาในสวิตเซอร์แลนด์ และถูกใช้เป็นฉากหนึ่งที่ใช้ถ่ายทำภาพยนต์ “เจมส์ บอนด์” ตอน “โกลด์ฟิงเกอร์”
อันดับ 3 “ถนนแอตแลนติก, นอร์เวย์”
ถนนแอตแลนติก ได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมือง ปี ค.ศ.1989 และถือเป็นหนึ่งในถนนสายท่องเที่ยวเส้นสำคัญของนอร์เวย์ ด้วยระยะทางกว่า 8.3 กิโลเมตร ซึ่งวิ่งระหว่าง 2 เมืองใหญ่ที่มีประชากรมากอย่าง เมืองคริสเตียนซุนด์และเมืองโมลเด จุดขายของถนนเส้นนี้คือ แทนที่จะเป็นถนนที่ตัดผ่านภูเขา หรือชายฝั่ง แต่เป็นถนนที่ตัดผ่านมหาสมุทร โดยอาศัยเกาะโขดหินเป็นจุดเชื่อม เรียกได้ว่า ความสามารถของมนุษย์นี่สุดยอดจริงๆ
อันดับ 4 “ถนนไวท์ริม อุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์, ยูทาห์ สหรัฐฯ”
ด้วยระยะทางกว่า 100 ไมล์ ของไวท์ริมโร้ด ที่วกวน และล้อไปกับความลาดชัดระดับต่างๆ ของหุบผาชัน ภูมิทัศน์หลักในอุทยานแห่งชาติแครยอนแลนด์ หากใช้รถโฟร์วีลจะต้องใช้เวลาไว้ 2-3 วัน และหากต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดโดยจักรยานเสือภูเขาก็จะต้องเผื่อเวลาเป็น 3-4 วัน ถนนเส้นนี้ยังได้ชื่อว่า เป็น “ถนนปราบเซียน” อีกเส้นหนึ่ง เพราะอาจเจอกับปัญหาทัศนวิสัยในจากฝุ่นที่คลุ้ง และสภาพภูมิอากาศที่คาดเดาได้ยาก
อันดับ 5 “ถนนเทียนอันเหมิน หูหนาน, จีน”
ด้วยระยะทาง 11 กิโลเมตรของถนนเทียนอันเหมิน ซึ่งไต่จากจุดล่างสุดไปถึงความสูงๆ สุดของของภูเขาเทียนอันเหมินด้วยความสูง 131.5 เมตร ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเทียนอันเหมิน ในนมณฑลหูหนานของจีน ตัดผ่านขอบเขา ระหว่างทางสามารถสัมผัสบรรยากาศเขียวชอุ่มของต้นไม้ที่ยังมีความสมบูรณ์อยู่ ถือได้ว่า เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด
ทั้งนี้ นอกจากจะสัมผัสประสบการณ์จากรถยนต์แล้ว ทางอุทยานได้จัดกระเช้าเคเบิล ลำเลียงนักท่องเที่ยวไปยังยอดเขา ซึ่งก็ถิอเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ เพราะมีบางจุดที่กระเช้านั้นต้องผ่านความชันถึง 37 องศา แต่ก็คงไม่เหมาะนักสำหรับผู้ที่กลัวความสูงสักเท่าใดนัก
อันดับ 6 “สะพานเซเว่นไมล์, ฟลอริดา”
สะพานเซเว่นไมล์ ถือเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงอย่างมากในฟลอริดา ด้วยการที่ตัดผ่านมหาสมุทร จนสะพานเส้นนี้ได้รับการขนามนามว่า เป็น “ทางหลวงโพ้นทะเล”
อันดับที่ 7 “ถนนแชปแมนพีค เคปทาว์น แอฟริกาใต้”
ถนนแชปแมนพีค เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างอ่าวนอร์ดฮุคก์และอ่าวฮาท์วซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่งของคาบสมุทรแอตแลนติก ด้วยระยะทางกว่า 9 กิโลเมตรและทางโค้งอีกกว่า 144 โค้ง เลียบชายฝั่งหินของแชปแมนพีค ผู้ที่ใช้ถนนสายนี้จะถูกขนาดนามว่า “แชปปี้” และสามารถมองเห็นวิวได้แบบเต็มตา ถึง 180 องศา
อันดับ 8 “สเตวิลโอ พาส, อีสเทิร์นแอลป์ อิตาลี”
นิตยสารท็อปเกียร์ ได้เลือก “สเตวิลโอ พาส” เป็นถนนที่น่าขับขี่ที่สุดของโลก และเป็นที่ๆ สิงห์นักขับต้องไปเยือนให้ได้
อันดับ 9 “โคล เดอร์ทูรินิ, ฝรั่งเศส”
โคล เดอร์ทูรินิ ถือได้ว่าเป็นถนนที่ตัดผ่านเทือกเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเมอร์ริตไทม์ในฝรั่งเศส และเป็นถนนที่โด่งดังจากเป็นหนึ่งในสนามแข่งรถเรลลี่มอนติคาร์โล เพราะได้ชื่อว่าเป็นถนนที่แคบ และมีโห้งหักศอกที่อันตรายสุดๆ อีกทั้ง โคล เดอร์ทูรินิ ยังถูกใช้เป็นสนามแข่งขันจักรยาน ในรายการ “ตรู เดอ ฟรอง” ถึง 3 ครั้ง
อันดับ 10 “อุโมงค์โกว์เหลียง, จีน”
อุโมงค์โกว์เหลียง เป็นถนนอุโมงค์ที่เลาะผ่านภูเขาภูเขาไท้ฮาง เมืองหูหนาน ประเทศจีน ประวัติศาสตร์ของอุโมงค์นี้น่าสนใจ เพราะถนนอุโมงค์นี้ เป็นถนนที่เกิดน้ำพักน้ำแรงของชาวบ้านในหมู่บ้านแถบนั้น ต่างเห็นพ้องต้องกันที่จะสร้างถนนอุโมงค์เส้นนี้เพื่อเชื่อมต่อกับโลกภายนอก จึงได้เริ่มโดยการแกะสลักถนน ลัดเลาะผ่านภูเขา โดยลงทุนและลงแรงทั้งหมดโดยชาวบ้านในแถบนั้น
source: sanook