สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว ScholarShip.in.th วันนี้เราก็มีข่าวคราวและข่าวสารดีๆ วาไรตี้ทางการศึกษามาฝากเพื่อนๆ กันอีกแล้วนะครับผม มาชมกันได้เลย
เพื่อนๆ หลายๆ คนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เราบ่อยๆ นั้นส่วนหนึ่งก็อยากไปเรียนต่อกันที่ต่างประเทศกันใช่มั้ยล่ะ และไม่ผิดหวังแน่นอนครับสำหรับเรื่องราวที่เรานำเอาฝากกันในวันนี้
เพราะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับ 10 เมืองใหญ่ ที่น่าอยู่ และที่สำคัญเหมาะสำหรับการเรียนและการศึกษาอย่างยิ่ง ประจำปี 2558 ที่กำลังจะถึงนี้ ลองมาชมกันดูนะครับว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง
อันดับ 10 : โซล (Seoul) : ประเทศเกาหลี
นอกจากจะเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวของประเทศแล้ว มหานครแห่งนี้ยังมีมาตรฐานเรื่องการศึกษาที่ค่อนข้างสูง จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 2014/15 มหาวิทยาลัยในกรุงโซลติดอันดับทั้งหมด 14 แห่งด้วยกันเลยล่ะ โดยมหาวิทยาลัยเลื่องชื่อที่สุดคือ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (Seoul National University)
อันดับ 9 : โทรอนโต (Toronto) : ประเทศแคนาดา
ด้วยคุณภาพชีวิตที่เรียกได้ว่าสูงมากครับ แถมประชาชนที่เมืองนี้มีความเป็นมิตร และมีชื่อเสียงติดอันดับโลกเมืองที่ความปลอดภัยที่สุด และสะอาดที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ทำให้ติดมาในอันดับ 9 อย่างไม่ยากเย็นเลยล่ะจ้า
อันดับ 8 : มอนทรีออล (Montréal) : ประเทศแคนาดา
เมืองสวย บรรยากาศดี การศึกษาเยี่ยม มีคะแนนโดดเด่นในเรื่องของความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักศึกษาที่เหมาะกับการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้เมืองมอนทรีออลยังมีมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับโลกด้วยกัน 3 แห่งด้วยกัน และมหาวิทยาลัยที่ได้อันดับสูงสุดคือ “McGill Universit” ติดอยู่ในอันดับที่ 21 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย
อันดับ 7 : โตเกียว (Tokyo) : ประเทศญี่ปุ่น
เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นที่คนไทยส่วนใหญ่จะเลือกไปเรียนต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรียภาษา หรือหลักสูตรระดับปริญญา ซึ่งผลจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก “มหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Tokyo)” ที่ติดอยู่ในอันดับที่ 31 และเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 2 ของเอเชีย ประจำปี 2014/2015 อีกด้วยล่ะ
อันดับ 6 : บอสตัน (Boston) : ประเทศสหรัฐอเมริกา
มหานครที่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Massachusetts Institute of Technology (MIT) อันดับ 1 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก และ Harvard University จนได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกาเลยล่ะครับ
อันดับ 5 : ฮ่องกง (Hong Kong) : เขตการปกครองพิเศษฮ่องกง
เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาอันดับที่ 5 และเป็นเมืองอันดับหนึ่งของทวีปเอเชีย ด้วยคะแนนในด้านค่าครองชีพถือว่าค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับเมืองต่างๆ และยังมีความโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยทุกคนเคารพกฎหมายและเป็นเมืองที่มีการคอรัปชั่นน้อยที่สุดเมืองหนึ่ง อีกทั้งยังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและติดอันดับโลกหลายแห่งด้วยกัน เช่น The University of Hong Kong (HKU) อีกด้วยครับ
อันดับ 4 : ซิดนีย์ (Sydney) : ประเทศออสเตรเลีย
เมืองยอดฮิตที่เหล่านักเรียนนักศึกษานิยมไปเรียนต่อมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีคนนิยมเรียนต่อมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก รองจากอเมริกาและอังกฤษ แม้จะมีค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังเป็นที่นิยมสำหรับคนที่คิดจะเรียนต่อ โดยมีมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง University of Sydney ติดอยู่ในอันดับที่ 37 ของโลกอีกด้วย
อันดับ 3 : ลอนดอน (London) : ประเทศอังกฤษ
ด้วยอันดับมหาวิทยาลัยโลกที่ค่อนข้างสูง และโอกาสในการจ้างงาน และที่สำคัญมีมหาวิทยาลัย University College London (UCL) ติดอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก แต่ข้อเสียของลอนดอนจะอยู่ที่ค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงมาก แต่ด้วยคุณภาพและมาตรฐานด้านการศึกษาที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ก็ทำให้เมืองแห่งนี้ยังเป็นเมืองในฝันของนักศึกษาหลายคนอยู่ดีแหละ ว่ามั้ยล่ะ
อันดับ 2 : เมลเบิร์น (Melbourne) : ประเทศออสเตรเลีย
เมืองหลวงเก่าของประเทศออสเตรเลีย มีทั้งความหลากหลายทางเชื้อชาติของนักศึกษา คุณภาพความเป็นอยู่ และโอกาสการจ้างงาน เมลเบิร์นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา และเมืองแห่งศิลปะ บรรยากาศดี มีชายหาดและแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนมากมาย เหมาะแก่นักศึกษาอย่างยิ่งเลยล่ะ
อันดับ 1 : ปารีส (Paris) : ประเทศฝรั่งเศส
“มหานครในฝัน” ที่ใครๆ ก็อยากไปเยือน ด้วยบรรยากาศที่สวยงามและสุดแสนโรแมนติก แม้จะขึ้นชื่อว่ามีค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงอยู่สักหน่อย โดยในปี 2015 นี้ก็นับเป็นสมัยที่ 3 ของการเป็นเมืองอันดับหนึ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาที่อยากจะไปศึกษาต่อยังต่างประเทศอีกด้วย แถมยังมี“École normale supérieure หรือ Normal” สถาบันวิชาชีพชั้นสูงของกรุงปารีส อยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก จาก QS World University Rankings® 2014/15
เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆ มีเมืองหรือมหาวิทยาลัยของเพื่อนๆ รึเปล่า อิอิ ไว้เรามาชมรายละเอียดดีๆ เกี่ยวกับการศึกษากันได้ใหม่กับ ScholarShip.in.th นะครับ
Source: Manager