เราทุกคนย่อมต้องเคยผ่านชีวิตมัธยมกันมาก่อน ก่อนที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งความแตกต่างของสองช่วงชีวิตนั้นทำให้เรารู้สึกได้ว่า การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยค่อนข้างจะมีอิสระมากกว่าและเราได้มีโอกาสตัดสินใจกับเรื่องต่างๆ มากกว่าช่วงมัธยม
วันนี้เราก็มีบทความที่จะทำให้คุณได้ระลึกถึงความหลังครั้งที่ยังเรียนอยู่ นั่นก็คือภาพสะท้อนเรื่องจริงเปรียบเทียบระหว่างชีวิตมัธยมและชีวิตมหาลัย จะตรงกับประสบการณ์ของใครหลายๆ คนบ้างหรือเปล่า เราลองไปดูกันค่ะ
ตอนม.ปลาย จะไปเรียนทีก็ต้องแบกหนังสือจนเต็มกระเป๋า แต่พอขึ้นมหาลัยเท่านั้นแหละ แค่สมุดเลคเชอร์เล่มเดียวก็เพียงพอสำหรับคุณแล้ว
ตอนเรียนมัธยม ด้วยกฎระเบียบทำให้เราต้องใส่รองเท้าฟอร์มเดียวกันทั้งโรงเรียน แต่พอขึ้นมหาลัยทุกคนอยากใส่อะไรไปเรียนก็ตามใจชอบเลยจ้า
ชีวิตมัธยมเราต้องตัดผมทรงเกรียนหรือรองทรงตามแบบฉบับนักเรียนไทย แต่เมื่อเราโตขึ้นไปเรียนในมหาวิทยาลัย เรามีอิสระในการออกแบบทรงผมได้ตามใจชอบ จะทรงไหนก็จัดไปเลย
เรียนมัธยมต้องแย่งกันเรียนให้ได้เกรด 4 แต่ขึ้นมหาลัยคุณเรียนไม่ติด F ก็แทบจะปิดซอยฉลองแล้ว
เคยไหม ตอนเรียนมัธยมในกระเป๋าของคุณจะต้องมีเครื่องเขียนไว้ในกระเป๋าเตรียมใช้งานทุกชิ้น แต่พอคุณโตขึ้นในวัยมหาลัยคุณจะพบว่าปากกาแท่งเดียวก็มีประโยชน์ครอบจักรวาลแล้ว
สถานที่พบปะเพื่อนฝูงในช่วงชีวิตมัธยมก็มักจะเป็นร้านกาแฟหรือขนม แต่เมื่อคุณได้มาเรียนมหาวิทยาลัยนอกจากจะนัดกันไปร้านกาแฟแล้ว เพื่อนๆ ของคุณก็จะพาไปเปิดหูเปิดตาร้านเหล้าสักครั้งแน่นอน
ช่วงมัธยมมีเพื่อนเป็นสิบเป็นร้อยไปไหนไปกัน แต่พอคุณโตขึ้นคุณต้องรู้จักพึ่งพาตนเองและใช้ชีวิตคนเดียวให้เป็น
ตอนเรียน ม. ปลาย ห้ามขาดห้ามสาย มาเรียนครบทุกคน แต่พอมหาลัยเท่านั้นแหละคาบ 8 โมงเช้าทีไร ขาดเกินครึ่งทุกที
เรียนดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ บางทีก็ใช้ไม่ได้กับชีวิตเด็กมหาลัย
ตอนมัธยมต้องตื่นไปโรงเรียนตั้งแต่ไก่โห่ แต่พอเรียนมหาลัยตื่นเกือบเที่ยงแทบทุกวัน
จริงไหมคะ….
ที่มา: www.quora.com และ www.fuccha.in