ในแต่ละวันของการใช้ชีวิตเราต้องเผชิญกับความสนเท่ห์ของผู้คน หรือการแสดงออกทางภาษากายที่เราแปลไม่ออก
ด้วยเหตุนี้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตท่านหนึ่งจึงได้ทำการรวบรวมเทคนิคทางจิตวิทยาที่สนุกสนาน และฟังดูไม่ยากอย่างที่คิด ตามมาเก็บความรู้กันเลย
1. เลิกผัดวันประกันพรุ่ง
ก่อนนอนลองคิดถึงงานที่ต้องส่งให้ทัน ซึ่งสิ่งนี้จะบังคับสมองให้ประสานงานกับจิตใจ จากนั้นสมองก็จะเริ่มวาดเส้นทางสู่ความสำเร็จของหางานที่คุณต้องส่ง สรุปง่ายๆ คือมันเป็นสิ่งที่ต้องเริ่มจากในความคิดของคุณก่อนนั่นเอง
2. เรียนรู้ให้ง่ายขึ้น
วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดายคือการอธิบายให้คนอื่นฟัง
3. ทำให้คนอื่นไม่ร้ายใส่คุณ
หากคาดการณ์ได้ว่าเจ้านายจะต้องหัวเสียใส่คุณในที่ประชุม ให้เข้าไปนั่งใกล้เขาซะเลย เพราะมันออกจะอึดอัดลำบากใจหากต้องพูดจาแย่ๆ หรือกระทำการก้าวร้าวออกไปเมื่อคนๆ นั้นนั่งอยู่ใกล้ตัว
4. จับโป๊ะคนที่กำลังแอบมองอยู่
เรามักสัมผัสได้เมื่อรู้สึกว่ามีคนกำลังมองเราอยู่ เพื่อความแน่ใจว่าใครกันที่ส่งสายตามาหาเรา ให้ทำเป็นหาวจากนั้นก็หันไปมองคนที่คุณสงสัย หากว่าเขาคนนั้นหาวตามพอดี คุณก็ได้คำตอบแล้วล่ะ
5. ทำให้คล้อยตาม
เมื่อคุณเอ่ยคำถามบางอย่างกับอีกฝ่ายให้พยักหน้าตามไปด้วย ในทางจิตวิทยาเรียกว่า Mirroring หมายความว่าผู้คนมักจะเห็นด้วยกับคุณหากคุณส่งสัญญาณยืนยันที่เป็นบวก (ในกรณีนี้คือการพยักหน้า)
6. เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ
หากต้องการให้ใครบางคนเปิดใจกับคุณ ให้ถามคำถามออกไป และเมื่ออีกฝ่ายตอบอย่างครึ่งๆ กลางๆ คุณก็ทำเป็นเงียบไปเลยแต่พยายามสบสายตากับฝ่ายตรงข้ามเข้าไว้ ซึ่งการกดดันนี้จะทำให้เขายอมเอ่ยออกมา (แต่ระวังด้วยล่ะเพราะบางคนอาจรู้สึกหงุดหงิด)
7. ขจัดความกังวลก่อนงานใหญ่จะเริ่มขึ้น
หากรู้สึกวิตกกังวลก่อนงานอะไรก็ตามจะเริ่มต้นขึ้น ให้หาหมากฝรั่งมาเคี้ยว สมองของเรามีความประหลาด โดยจะเชื่อว่าเราปลอดภัยเมื่อใดก็ตามที่กำลังกินอยู่
8. แก้ปัญหาเรื่องการสบตา
หากคุณเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องนี้ล่ะก็ ลองเปลี่ยนไปมองระหว่างตา ซึ่งมันไม่ดูแตกต่างมากนักสำหรับบุคคลตรงหน้า อีกทั้งยังทำให้คุณดูเป็นมิตร และมีความมั่นใจขึ้น
9. คนสนิท
ในขณะที่เราหัวเราะขำขันกับคนในกลุ่ม เรามักจะมองไปที่บุคคลที่รู้สึกสนิทใจมากที่สุด นี่อาจเป็นวิธีที่ที่จะจับโป๊ะว่าเพื่อนของคุณแอบปิ๊งกันหรือเปล่า
10. ดนตรีคลาสสิกกับการเรียน
จากงานศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าเพลงแร็พและฮิปฮอปส่งผลเสียต่อเกรดเฉลี่ย ในขณะที่การฟังดนตรีคลาสสิกหรือเพลงสบายๆ จะส่งผลดีกว่า
เทคนิคเหล่านี้ฟังดูไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ ลองเอาไปใช้กับเพื่อนดูเผื่อว่าคุณจะได้ดวงตาเห็นธรรม :)
ที่มา: boredpanda