เนื้อเยื่อเส้นใยหรือเนื้อเยื่อแผลเป็น คือสิ่งที่ร่างกายพยายามซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยเป็นส่วนที่ต้องใช้เวลา และความอดทนในการรักษา อย่างไรก็ตามทางลัดย่อมมีอยู่เสมอ และเคล็ดลับทั้ง 10 นี้จะช่วยปรับปรุงลักษณะของเนื้อเยื่อแผลเป็น
1. วาสลีน
ผลการศึกษาพบว่า วาสลีนเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้เมื่อเปรียบเทียบกับครีม และเซรั่มที่มีราคาแพง โดยใช้เป็นประจำทุกวัน วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 1-3 สัปดาห์ จะทำให้ผิวชุ่มชื่น ลดรอยแผลเป็นที่แห้ง และหยาบกร้าน
ใช้ได้ผลสำหรับ:
-รอยแผลเป็นที่เกิดจากแบคทีเรีย และสิว
-รอยแตกลาย
2. ว่านหางจระเข้
นับศตวรรษที่ว่านหางจระเข้เป็นยาในการรักษาจากรุ่นสู่รุ่น โดยในว่านหางจระเข้มีสารที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และฆ่าเชื้อบนผิว ใช้ว่านหางจระเข้ (จากใบ) ทาโดยตรงบนแผลเป็น และนวดเป็นวงกลม ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก ใช้อย่างต่อเนื่องวันละ 2 ครั้ง
ใช้ได้ผลสำหรับ:
-แผลผ่าตัดคลอด และแผลเป็นหลังผ่าตัดอื่นๆ
3. ซิลิโคน
ถ้าคุณมีแผลพุพอง และแผลคีลอยด์ อาจลองใช้ผ้าพันแผลพิเศษ เช่นที่มีแผ่นรองซิลิโคน การรักษาด้วยซิลิโคนช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และปกป้องผิวแผลเป็นจากแบคทีเรีย
สามารถเริ่มใช้พลาสเตอร์ปะแผลแบบซิลิโคนหลังจากแผลหายแล้ว 2 สัปดาห์ ใช้แผ่นแปะอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวันหรือจนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
ใช้ได้ผลสำหรับ:
-แผลเป็นที่มีลักษณะนูนขึ้น
4. น้ำมันหอมระเหย (น้ำมันจันทน์และน้ำมันลาเวนเดอร์)
น้ำมันหอมระเหยโดยทั่วไปช่วยเสริมคอลลาเจน และมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค ต้านการอักเสบ สมาน และรักษา ใช้น้ำมันหอมระเหยนวดบริเวณแผลเป็น และสังเกตผลไปเรื่อยๆ
ใช้ได้ผลสำหรับ:
-แผลเป็นทุกชนิด
5. การนวด
อีกวิธีหนึ่งที่ดี และราคาไม่แพงที่จะช่วยให้แผลเป็นของคุณหายเร็วขึ้น นั่นคือการนวดบริเวณนั้นด้วยโลชั่น หากนวดเบาๆ ประมาณ 15-30 วินาที สัก 2-3 ครั้งต่อวันจะช่วยลดความหนาแน่นของคอลลาเจนที่เกาะติดกับเนื้อเยื่อ
ใช้ได้ผลสำหรับ:
-แผลเป็นคีลอยด์
-แผลเป็นจากการผ่าตัดคลอดและแผลเป็นจากผ่าตัดอื่นๆ
6. ครีมกันแดด
หากต้องการให้แผลเป็นหายดีให้พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลตที่ค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นให้ทาครีมกันแดดที่คุณใช้อยู่เป็นประจำ และมีค่า SPF 15 หรือสูงกว่า
ใช้ได้ผลสำหรับ:
-ใช้ได้ผลกับแผลเป็นทุกชนิด โดยเฉพาะแผลเป็นจากสิว
7. สารสกัดจากหัวหอม
มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และต้านเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดจากหัวหอมทำให้แผลเป็นนุ่มลงได้โดยไม่มีทำให้เกิดผลข้างเคียง
ใช้ได้สำหรับ:
-แผลเป็นจากไฟไหม้
-รอยแผลจากแผลผ่าตัด
8. แอปเปิ้ลไซเดอร์ + น้ำผึ้ง
เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์ และสารต้านอนุมูลอิสระ น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ และช่วยสมานแผล
โดยให้นำน้ำส้มแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมกับน้ำผึ้งทาลงบนแผลเป็น ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก
ใช้ได้สำหรับ:
-รอยแผลเป็นจากสิว
9. น้ำมัน (น้ำมันมะกอกและน้ำมันมะพร้าว)
น้ำมันจากพืชธรรมชาติให้ผลการรักษาที่น่าพึงพอใจ เช่น น้ำมันมะพร้าวมีกรด lauric, caprylic และ capric ช่วยฟื้นฟูผิวที่บอบบางด้วยการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยวิตามินสำคัญที่ช่วยในการรักษาแผลเป็นจากสิวทำให้ผิวของคุณชุ่มชื่น
นวดแผลเป็นด้วยน้ำมันมะกอกหรือมะพร้าวเป็นเวลา 5-10 นาทีหลายครั้งต่อวัน จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ใช้ได้สำหรับ:
-รอยแผลเป็นจากสิว
10. วิตามินดี
วิตามินซีไม่ใช่วิตามินอีตามที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่ามีฤทธิ์ในการรักษารอยแผลเป็นได้ดีกว่ากัน ผิวของเราจำเป็นต้องใช้วิตามินซีเพื่อเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวช่วยลดรอยแดง
และช่วยในการรักษาบาดแผล ซึ่งแพทย์แนะนำให้ใช้ทั้งภายใน (เช่นเครื่องดื่ม) และแผลเป็นเฉพาะที่ (ครีม)
ใช้ได้สำหรับ:
-แผลเป็นจากสิว
-แผลเป็นผ่าตัด
ที่มา brightside