คำว่า ‘เรือนจำ’ หลายคนได้ยินคงยู่หน้าและส่ายหัวไปมา เพราะมันไม่ใช่สถานที่ที่น่าภิรมย์นัก นอกจากมีไว้สำหรับกักกันผู้กระทำความผิดแล้ว ณ หลังกำแพงนั้นยังซ่อนความดำมืดและเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายต่อชีวิตด้วย
ทว่า…ไม่ใช่สำหรับนอร์เวย์ เพราะขนาดความเป็นอยู่ของนักโทษยังขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุด แตกต่างจากสหรัฐฯ ที่ส้อมสำหรับคุกที่นั่นใช้เป็นอาวุธ แต่ที่นอร์เวย์ส้อมก็คือส้อม ใช้เพียงรับประทานอาหารเท่านั้น
ในขณะที่สหรัฐฯ ใช้ความโดดเดี่ยวกักขังนักโทษไว้หลังกำแพงสูงห่างไกลจากสังคมเมือง ส่วนนอร์เวย์มีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูให้ผู้ต้องขังสามารถกลับไปใช้ชีวิตที่โลกภายนอกได้ ไม่มีการลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
ว่าแล้วก็มาชมชีวิตความเป็นอยู่ของนักโทษที่ประเทศนอร์เวย์กันเลยค่ะ
เรือนจำ Halden เปิดตัวเมื่อปี 2010 ได้รับการขนานนามว่าเป็นคุกที่มีมนุษยธรรมที่สุดในโลก
เมื่อขับรถไปที่ประตูทางเข้า คุณคงจะจินตนาการถึงการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดสินะ…แต่เปล่าเลย
ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Erik Mølle ซึ่งตั้งใจจะให้เป็นเรือนจำที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีหน้าต่างที่สามารถมองเห็นต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่ละแวกนี้ได้
การตกแต่งภายในไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเป็นเรือนจำเลย ประตู ที่จับ และหน้าต่างทำมาจากไม้ แทนที่จะเป็นประตูโลหะที่ค่อนข้างแน่นหนาเหมือนที่อื่นๆ
ส่วนห้องพักก็ดูเหมือนหอพักนักศึกษามากกว่าสถานที่กักกันผู้กระทำผิด
ที่นี่ทำให้นักโทษ หรือบุคคลอันตรายรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ และพวกเขาจะปฏิบัติตนอย่างสุภาพมากกว่าการบังคับด้วยความทารุณ
นอกจากนี้ยังให้นักโทษใช้อุปกรณ์เครื่องเงินได้ ทำอาหารเย็นและรับประทานอาหารด้วยกัน อีกทั้งยังสามารถซื้อผลไม้สดจากผู้คุมขังและเรียนวิชาเครื่องปั้นดินเผาด้วย
ห้องสันทนาการอนุญาตให้นักโทษเล่นวิดีโอเกมส์หรือดูดีวีดีได้ และบางครั้งก็มีผู้คุมช่วยเลือกด้วย
นักโทษสามารถเข้าไปเล่นบาสเกตบอลหรือกำแพงปีนผา ในโรงยิม
พวกเขาสามารถฝึกฝนในทักษะที่ตัวเองต้องการ เช่น ลงไปที่ห้องอัดเสียงของเรือนจำ
มีห้องสวดมนต์สำหรับผู้ที่ฏิบัติตามแนวทางศาสนา หรือมีแม้กระทั่งการเชิญผู้นำศาสนาในท้องถิ่นมานำสวดมนต์ เป็นต้น
และนี่แหละคือสภาพของคุก ที่ขึ้นชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในโลก…
ที่มา businessinsider.com