เราทุกคนต่างเคยเป็นเด็ก เรามักจะมีปัญหาที่เหมือนๆกัน และเราค่อนข้างมั่นใจว่าปัญหาของเราจะเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจนไม่มีใครบนโลกใบนี้สามารถเข้าใจเราได้
แต่ความเป็นจริงแล้ว หากเรามองไปรอบๆตัวของเราแล้วเปิด จะพบว่า คนที่เข้าใจเรานั้นมีอยู่มากมาย
1. ความล้มเหลวอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับคุณ
การทำในสิ่งที่ผิดพลาดและล้มเหลวยังเป็นเรื่องที่น่าอายเสมอ แต่สิ่งที่ดีคือคุณสามารถเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดได้ วัยรุ่นที่พยายามแต่ทำในสิ่งที่ผิดพลาดยังดีกวว่าผู้ใหญ่ที่ล้มเหลว
ผู้ใหญ่ก็ล้มเหลวได้เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งทีสำคัญคือคุณสามารถเรียนรู้ได้มากเท่าความล้มเหลวจนกระทั่งคุณแข็งแกร่ง
2. เรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองก่อน
มันไม่ใช่เรื่องเห็นแก่ตัว แต่คือการช่วยเหลือ คุณไม่สามารถที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้หากคุณไม่รู้วิธีที่จะดูแลตัวเอง เรียนรู้ถึงข้อจำกัด ตัดสิ่งที่เป็นแง่ลบออก ทำสมาธิ เพิ่มพลังให้กับตัวเอง กรองผู้คน ใช้ครีมกันแดด ดื่มน้ำให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพตัวเอง มีความสุข และความน่าสนใจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดผู้คน
3. วัยรุ่นที่คิดว่าตัวเองเจ๋ง อาจจะไม่ได้เจ๋งอย่างที่คิด
ความเป็นจริงแล้วนักเรียนชายหญิงในโรงแรียนมัธยมส่วนใหญ่ไม่ได้ดีมากนัก พฤติกรรมของพวกเขามีกลไกป้องกันมากขึ้น พวกเขามักท้อแท้ในสิ่งที่เขาเป็นเพียงแต่เขาไม่ยอมรับมัน
หากมีนักเรียนหญิงคนไหนมีความสวยในช่วงวัยมัธยมปลายแล้วล่ะก็ ความสวยของเธออาจจะหมดไปได้ภายในอายุ 30 ปี และสำหรับนักเรียนเนิร์ดหรือนักเรียนที่ความแปลกกว่าคนอื่นจะมีความเชื่อมั่นและพร้อมที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า เขานี่แหละ ราชินีงานพรอม
4. โรงเรียนและวิทยาลัยไม่ได้ดีจริงอย่างที่คุณคิด
การศึกษาคือสิ่งที่สำคัญ แต่ความเครียดเรื่องเกรดกับการกู้ยืมจากวิทยาลัยใหญ่ๆดูไม่ควรจะเป็นปัญหา หากคุณต้องการที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือแพทย์ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นถึงศาสตราจารย์ คุณควรใช้เวลาและเงินไปกับสิ่งที่คุณถนัด แม้ว่าคุณจะล้มเหลว แต่นั่นคือโอกาสที่จะทำให้คุณให้เรียนในสิ่งที่คุณชอบจริงๆ
5. ที่นั่นต้องมีใครซักคน
คุณสามารถเอานะมันได้ ไม่ว่าความสัมพันธ์หรือมิตรภาพจะจบลง แต่ชีวิตยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่ามันจะไม่จบลงด้วยดี คุณก็ควรขอบคุณที่คนๆนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต วันหนึ่งคุณจะตะหนักได้ว่า ผู้คนเข้ามาและจากไป มันก็แค่ชีวิต และมันจะเปลี่ยนไป ผู้คนก็เปลี่ยนไป
ทุกๆคนที่คุณพบเจอจะสอนบทเรียนคุณบางอย่าง ถ้าหากเขาจากไป คุณจะได้บทเรียน และจะมีคนอื่นเข้ามาหากคุณพร้อมสำหรับพวกเขา
6. การที่คุณโตขึ้นไม่ได้แปลว่าคุณจะได้คำตอบสำหรับทุกอย่าง
คุณจะเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ในวัย 25 และ 30 ราวกับคุณอายุ 16 ปี มันมีความแตกต่างของคำความไม่รู้อะไรเลย แต่คุณยังคงสงสัยในเรื่องของความสัมพันธ์ อาชีพ แผนสำหรับอนาคต และอื่นๆอีกมากมาย เพียงแค่เรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในชีวิต
7. ทัศนคติคุณจะเปลี่ยน
คุณจะเปลี่ยนความคิดอยู่ตลอดเวลา แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องของการเมือง ศาสนา หรือเพลง สิ่งที่คุณคิิดเมื่ออายุ 16 อาจจะไม่เหมือนเดิมในอีก 5 ปีต่อมา มันไม่ได้หมายความว่าคุณยอมแพ้ตามหลักการของคุณ เพียงแค่ว่าคุณโตขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ถ้าคุณเข้าใจสิ่งนี้คุณจะสามารถยอมรับและยอมรับมุมมองที่แตกต่างกันได้ แต่ต้องมีและแสดงออกด้วยตัวคุณเอง
8. คว้าโอกาส
เมื่อคุณเป็นวัยรุ่นคุณสามารถใช้เวลาว่างเล่นเกมออนไลน์ หรือคุณสามารถใช้เวลานี้เพื่อทุกโอกาสที่คุณได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวพักผ่อนกับพ่อแม่ เป็นอาสาสมัครในฟาร์มในต่างประเทศ พยายามที่จะเรียนมวยแทนการเต้นแบบละติน?หรือแม้กระทั่งการเดินทางไปโรงเรียนในเมืองใกล้เคียงก็จะช่วยเพิ่มขอบเขตอันไกลโพ้นของคุณและทำให้คุณได้เข้าใจถึงสิ่งที่คุณต้องการทำต่อไป
9. กินของหวานอยู่เสมอ
เพียงแค่ยอมรับความจริงที่ว่าร่างกายของคุณไม่สมบูรณ์แบบ แต่คุณมีทัศนคติที่สมบูรณ์แบบได้ หากคุณตกหลุมรักตัวเองจริงๆคุณจะดูแลด้วยอาหารเพื่อสุขภาพดื่มน้ำให้เพียงพอและนอนหลับได้ดี ร่างกายของคุณจะขอบคุณคุณสำหรับสิ่งนั้น และคุณจะดูดีมากแม้ว่าคุณจะไม่ใช่สาวไซส์ S เพราะความมั่นใจเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นอย่าลืมที่จะสั่งของหวานและอย่าโทษตัวเองที่กินมันเข้าไป
10. อาการผีเสื้อที่บินวนอยู่ในท้องไม่ใช่ความรัก
อาการที่เรียกว่าผีเสื้อบินวนอยู่ในท้องไม่ใช่เป็นอาการของความรัก แต่เป็นเพียงอารมณ์และฮอร์โมนของคุณ หากคุณโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ คุณจะเข้าใจความหมายของมันมากขึ้น และสามารถแยกความแตกต่างระหว่างความต้องการทางเพศและความรักออกจากกันได้
11. พ่อแม่ของคุณก็อยู่ที่นั่นด้วยเหมือนกัน
ถ้าคุณคิดว่าพ่อแม่เป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของคุณ เพียงแค่จำไว้ว่าพวกเขาเคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน และถ้าหากเขาเข้มงวดกับคุณนั่นแปลว่าเขากังวลว่าคุณจะทำในสิ่งที่โง่เขลา
ดังนั้นแทนที่จะต่อสู้กับทุกปัญหา ควรมีการพูดคุยและพยายามที่จะเข้าใจเหตุผลของพวกเขา มันอาจเป็นเรื่องยาก แต่มันจะพิสูจน์ได้ว่าคุณกำลังเติบโตขึ้นจริงๆ
ที่มา; brightside.me