การเดินทางบนอากาศในยุครุ่งเรืองของการบินนั้น เรียกได้ว่าค่อนข้างห่างไกลจากทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นความกังวลเรื่องการเดินทางที่ยาวนาน การต่อแถวยาวเหยียด หรือรีบสวาปามอาหารก่อนขึ้นเครื่อง
ทว่าการเดินทางโดยเครื่องบินในปี 1950 และ 1960 กลับเป็นเรื่องเย้ายวนใจ ไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารแบบจัดเต็มดูเวอร์วัง หรือห้องโดยสารที่มีความกว้างขวางต่างจากปัจจุบันอย่างไม่น่าเชื่อ
1. ค่าตั๋วแพงมาก
ในยุคนั้นตัวเลือกสำหรับการจองเที่ยวบินค่อนข้างจำกัดไม่สะดวกง่ายดายเหมือนทุกวันนี้ และมีราคาแพงกว่ามาก
2. การแต่งกายของผู้โดยสาร
โดยผู้ชายจะแต่งแบบ Three pieces Suit คือสูทตัวนอก เสื้อกั๊ก และเสื้อเชิ๊ต ตบท้ายด้วยหมวกอีกใบ ส่วนสุภาพสตรีจะแต่งตัวแบบมีระดับด้วยรองเท้าส้นสูง และเครื่องประดับชั้นสูง
3. ไม่จำเป็นต้องผ่านระบบรักษาความปลอดภัย
ไม่จำเป็นต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน และสามารถปรากฎตัวที่สนามบิน 20 – 30 นาทีก่อนที่เครื่องบินจะออกเดินทาง นอกจากนี้ ครอบครัวและเพื่อนฝูงสามารถไปส่งคุณถึงหน้าเกทได้ด้วย แต่ในช่วง 1960 มีเหตุการณ์จี้ปล้นบนเครื่องบินหลายครั้งในทุกๆ ปี การเดินทางโดยเครื่องบินจึงมีความปลอดภัยน้อยลง
4. ที่นั่งมีความสะดวกสบาย
ในช่วงต้นปี 1950 ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างชั้นธุรกิจหรือชั้นประหยัด เพราะมันไม่มีความแตกต่างเลย ในช่วงนั้นเครื่องบินมีความหรูหราตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงด้านหลังของห้องโดยสาร และถึงแม้จะเริ่มเปิดตัวชั้นเฟิร์สคลาสในช่วงหลัง ผู้โดยสารทุกคนก็ยังคงมีพื้นที่วางเท้ามากกว่าเครื่องบินปัจจุบัน
5. พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต้องเป็นไปตามข้อกำหนด ที่บางครั้งอาจล่วงล้ำเกินไป
ในช่วงต้นปี 1950 แอร์โฮสเตรสต้องสวมรองเท้าส้นสูงจนกว่าเครื่องจะ Take off นอกจากนี้ ยังต้องใส่ถุงมือสีขาว สวมเสื้อ Corset ไว้ภายใต้ชุดสูทที่กระชับ และยังมีการกำหนดอีกว่าควรไว้ผมยาวได้แค่ไหน น้ำหนักตัวต้องอยู่เท่านี้ หรือพนักงานควรเป็นโสด และช่างพูดช่างคุย
6. ผู้โดยสารต้องทนกับเสียงดังอึกทึก
เครื่องบินโดยสารที่มีตัวขับเคลื่อนเช่น Lockheed Constellation และ Douglas DC-7 ทำให้เกิดเสียงดังมาก ซึ่งผู้โดยสารต้องทนฟังเสียงเช่นนี้ตลอดการเดินทาง
7. ความบันเทิงบนเที่ยวบินมีอยู่จำกัด
หากผู้โดยสารลืมเอาหนังสือขึ้นเครื่องมาด้วย ก็ต้องหวังเอาดาบหน้าว่าคนที่นั่งข้างๆ จะเป็นเพื่อนที่คุยสนุก หรือไม่ก็นั่งมองวิวนอกหน้าต่างตลอดการเดินทาง และสายการบินในยุค 50 มักมีบริการไปรษณีย์บัตรแก่ผู้โดยสารเพื่อช่วยคลายความเบื่อหน่าย
8. อาหารบนเครื่องบินมีล็อบสเตอร์ หรือพาร์มริบ ส่วนมากมักเสิร์ฟในจีน
เรียกได้ว่าการรับประทานอาหารบนเครื่องบินในยุคนั้น เสมือนได้นั่งกินในร้านอาหารหรูๆ เ่องจากบนเครื่องบินไม่มีกิจกรรมบันเทิงมากนัก ทางสายการบินจึงใช้อาหารเพื่อลดความเบื่อหน่ายของผู้โดยสาร
9. คุณสามารถสูบบุหรี่ได้
แต่ก่อนนั้นไม่จำเป็นต้องเดินวุ่นมองหาเลานจ์สูบบุหรี่ในสนามบิน ซึ่งผู้โดยสารสามารถสูบบุหรี่ขณะที่ยังอยู่บนเครื่องบินได้
10. ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการเดินในห้องโดยสาร
ในช่วงยุคทอง ผู้โดยสารมีโอกาสมากที่จะได้รับบาดเจ็บเมื่อเดินทางด้วยเครื่องบิน
11. ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว
ข้อแตกต่างที่สำคัญในยุค 50 และ 60 คือช่องว่างความมั่งคั่งระหว่างครอบครัวคนผิวขาวและชนกลุ่มน้อย และทำให้ชนกลุ่มน้อยไม่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้
12. รอกระเป๋าเดินทางหลังจากแลนดิ้ง
เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีสายพานลำเลียงสัมภาระ หลังจากเครื่องลงจอดผู้โดยสารจะต้องไปที่เคาน์เตอร์สัมภาระ แสดงตั๋วแก่พนักงานยกกระเป๋า ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาสักครู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นเครื่องบินลำใหญ่และมีสัมภาระหลายใบ
ที่มา www.ranker.com