บางครั้งเนี่ยเราก็ไม่รู้หรอกนะว่า บางพฤติกรรมที่เราทำน่ะ มีผลทำร้ายสมองและความจำของเรามากๆ เลยทีเดียว ซึ่งวันนี้เราก็จะมาสรุปพฤติกรรมต่างๆ ให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน จะได้หยุดทำร้ายสมองกันซักทีนะจ๊ะ
ไม่ทานอาหารเช้า
พฤติกรรมยอดฮิตของคนสมัยนี้เลยก็ว่าได้ เพราะอาจจะต้องเร่งรีบไปทำนู่นนี่ แต่รู้มั้ย? การไม่ทานอาหารเช้านั้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สมองไม่ไดรับสารอาหารมาเลี้ยงอย่างเพียงพอ และเป็นเหตุให้เกิดอาการสมองเสื่อม (อัลไซเมอร์) ได้นะจ๊ะ
การโกหกเป็นประจำ
การโกหกนั้น ต้องทำให้สมองทำงานหนักกว่าผิดปกติ เพราะสมองต้องคอยจำในสิ่งที่โกหกเอาไว้ จึงส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง โดยในความเป็นจริงแล้วสมองคนเรายิ่งทำงานหนักถือว่ายิ่งดี แต่มีข้อมูลยืนยันมาว่า การใช้สมองทำงานหนักในทางที่ไม่สร้างสรรค์นั้น ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง!!!
ความเครียด
นอกจากจะทำลายสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อสมองด้วย!!! แถมทำให้ประสิทธิภาพในการทำงาน การเรียนหนังสือจะลดลง และอาจสะสมจนร่างกายไม่สามารถปรับตัวรับกับความเครียดได้
การกินอาหารที่มากเกินพอดี
หากกินอาหารปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกายจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคความจำสั้น ดังนั้นพยายามอย่าทานจุกจิก หรือทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์นะจ๊ะ
ทานของหวานมากเกินไป
ของหวานหากทานเยอะเกินไปจะเข้าไปขัดขวาง การดูดกลืนของโปรตีน และสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และสมองได้ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุให้เป็นโรคขาดสารอาหาร และขัดขวางการพัฒนาของสมองด้วย!!!
ขาดการฝึกฝนลับสมอง
หากอยู่เฉยๆ ให้ผ่านไปวันๆ โดยที่ไม่คิดอะไรใหม่ๆ บ้างนั้น จะส่งผลให้การทำงานของสมองลดลงอย่างหนัก เพราะไม่ได้ถูกใช้งาน บ่อยๆ เข้าจะสูญเสียเซลล์สมอง หรือเส้นใยประสาท ยิ่งไม่ใช่บ่อยเท่าไร สมองก็จะเริ่มฝ่อมากขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งแวดล้อมที่แย่
สภาพแวดล้อมก็มีผลต่อสมองเช่นกัน เช่นมลภาวะที่เป็นพิษต่างๆ ทำให้เกิดอันตรายต่อสมองได้ หรือถ้าบรรยากาศไม่น่าอยู่ แออัด มีเสียงดัง ก็จะทำให้รู้สึกไม่เกิดความคิดสร้างสรรค์ สมองจึงไม่เจริญเติบโตไม่มีการพัฒนา เพราะไม่ได้ใช้ความคิดนั่นเอง…บรรยากาศจึงเป็นเรื่องสำคัญนะจ๊ะ
การอดหลับอดนอน
สมองก็เหมือนอวัยวะอื่นๆ ที่ต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ หากคนเราอดนอนต่อเนื่องกันก็จะทำให้สมองขาดการพักผ่อน เซลล์สมองอาจตายได้ อาจจะทำให้คิดอะไรได้ช้า เบลอ หลงๆ ลืมๆ ดังนั้นควรหาเวลานอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อจะได้ชาร์จพลังงานอย่างเต็มที่!!!
การนอนคลุมผ้าห่มปิดหัว
เป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้น และลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อการทำงานของสมองโดยตรง!!!
สมองถูกกระทบกระเทือน
หากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง อาจจะด้วยแรงกระแทก ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุ การตกจากที่สูง ถือว่าเป็นการทำร้ายสมองอย่างตรงจุด อาจทำให้เลือดคั่งในสมอง สมองบวม ความจำอาจเสื่อม และเซลล์ในสมองบางส่วนจะถูกทำลาย ดังนั้นแล้วอย่าให้มีอะไรมากระแทกหัวของเราแบบรุนแรงนะจ๊ะ
การดื่มของมึนเมา
หากดื่มมากเกินไป จะทำให้สมองฝ่อ เป็นโรคประสาท ฤทธิ์ของแอลกกอฮอล์นั้นจะเข้าไปกดประสาท ส่งผลให้สมองทำงานช้าลง ขาดสติ ประสาทหลอน พูดจาไม่รู้เรื่อง เมื่อสมองทำหน้าที่ผิดปกติก็จะส่งผลถึงการทำงานของอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายด้วย เช่น กล้ามเนื้อส่วนปลาย แขน ขา อ่อนแรง โรคซึมเศร้า เป็นต้น
ดื่มกาแฟมากเกินไป
จริงๆ แล้วการดื่มกาแฟนั้นมีผลดีช่วยกระตุ้นระบบประส่วนกลางทให้ไม่รู้สึกง่วง แถมยังช่วยให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้นด้วย แต่ก็ไม่ควรดื่มจนมากเกินไป นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าปริมาณสารคาเฟอีนที่คนเรากินในกาแฟไม่ควรเกิน 250-600 มก. ต่อวัน ดังนั้นควรดื่มในปริมาณพอเหมาะวันละไม่เกิน 2-3 แก้วก็พอแล้ว
การเป็นโรคที่สัมพันธ์กับสมองโดยตรง
นอกจากพฤติกรรมแล้ว โรคภัยไข้เจ็บก็ทำร้ายสมองได้เช่นกัน โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับสทอง อาทิ เนื้องอกในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคชัก เป็นต้น บางโรคเป็นแล้วรักษาหายขาดได้ บางโรคก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นแล้วคุณควรใส่ใจกับสุขภาพของตัวเอง และคนใกล้ตัวอย่างเคร่งครัด
โทรศัพท์มือถือ!!!
นักวิจัยพบว่า คลื่นจากมือถือนั้น เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมากมาย อาทิ อัลไซเมอร์ เป็นหมัน มะเร็ง โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ใช้มือถือคุยนานๆ เกินวันละ 2 ช.ม. มีอัตราความเสี่ยงที่จะเป็นโรคขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยอันควร เพราะคลื่นโทรศัพท์มีผลต่อร่างกายมนุษย์ โดยเฉพาะเซลล์สมอง และเซลล์สืบพันธุ์ เพราะมีความไวต่อการรับความรู้สึกนั่นเอง นอกจากนี้การวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัวขณะนอนหลับ คลื่นแม่เหล็กก็จะไปรบกวนสมอง ทำให้สมองทำงานได้น้อยลงด้วย
รู้อย่างนี้แล้วเราก็มาหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายสมองกันนะจ๊ะ สมองทำงานหนัก หลงๆ ลืมๆ แก่ก่อนไวล่ะก็ แย่เลยล่ะ ><
Source: Yenta4