หลายคนคงเคยเดินทางท่องเที่ยวไปตามเมืองใหญ่ๆในยุโรปมาบ้างไม่มากก็น้อยใช่มั้ยล่ะ แต่หากใครยังไม่เคยไป และวางแผนที่จะเที่ยวในอนาคต แต่ไม่อยากเผชิญกับทัวร์นักท่องเที่ยว หรือกำลังมองหามุมถ่ายรูปใหม่ๆไม่ซ้ำใคร เราขอเสนอ 15 เมืองต่อไปนี้ ที่รับรองได้ว่า “เล็กแต่ฟิน” แน่นอน
1.Bruges, Belgium
บ้านที่มีรูปร่างเหมือนขนมปังขิงบนถนนสายโรแมนติกที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยสะพานโค้งและคลองที่อาจเรียกได้ว่าเป็น “เวนิสทางตอนเหนือ” ทำให้หลายคนถึงกับยกให้เมือง Bruges เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในยุโรปและเราก็เห็นด้วยแบบสุดใจเลยล่ะ
2.Sintra, Portugal
เมื่อมาเยือนที่นี่ Sintra จะทำให้คุณหลงคิดว่าได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทพนิยาย ด้วยเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันของปราสาทและสวนสวยที่แปลกตาของเมืองนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด
3.Brasov, Romania
ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เรียกเมืองแห่งนี้ว่า ‘ไข่มุกแห่งทรานซิลวาเนีย’ Brasov ดูเหมือนเมืองที่ถูกแช่แข็งเอาไว้ตั้งแต่ยุคกลางท่ามกลางป้อมปราการแห่งศตวรรษ บ้านเก่าแก่ที่ยังมีหลังคาเป็นกระเบื้องและหอนาฬิกาที่มีเสียงดังทุกๆชั่วโมง สร้างบรรยากาศแห่งความสงบและเงียบสงัด
4.Gdansk, Poland
เมืองเก่าแห่งนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งของทะเลบอลติก ที่มีจุดเด่นเป็นบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร จากร้านกาแฟที่มีบรรยากาศสบาย ๆ หลายสิบแห่ง ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงงานแสดงสินค้าและนิทรรศการที่ผู้มาเยือนทุกคนจะได้พบกับบางสิ่งที่พิเศษสำหรับตัวเองเมื่อมาที่เมืองนี้
5.Mostar, Bosnia and Herzegovina
สะพานที่เก่าแก่นี้ คือสิ่งที่แบ่งเมืองออกเป็นสองส่วน ได้แก่ บอสเนียและโครเอเชีย ในวันนี้ Mostar กลายเป็นสถานที่ที่ไม่เหมือนใครซึ่งมีอารยธรรมทั้งในแบบตะวันออกและตะวันตก ไม่เพียงแต่ในด้านสถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาหารประจำชาติและประเพณีท้องถิ่นอีกด้วย
6.Bled, Slovenia
Bled ตั้งอยู่ที่ปลายเทือกเขา Julian Alps บนชายฝั่งทะเลสาบที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก คุณจะถูกสะกดด้วยช่วงเวลาที่เห็นพื้นผิวเรียบของทะเลสาบซึ่งสะท้อนภาพของทิวเขาในตอนเช้า
7.Novi Sad, Serbia
เมืองนี้เลื่องลือในด้านของพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์และอนุสาวรีย์หลายแห่ง ไม่แปลกใจที่ Novi Sad จะเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของประเทศเซอร์เบีย สัญลักษณ์ของเมืองนี้คือป้อม Petrovaradin Fortress ที่มีทัศนียภาพอันงดงามของเมืองและแม่น้ำดานูบ ที่ซึ่งจะทำให้คุณตกหลุมเสน่ห์ของบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันนี้
8.Koman, Albania
โคมานเป็นเมืองที่คุณอาจจะแวะมาเพื่อเยี่ยมชมทะเลสาบ Komani ที่ที่น้ำใสราวกับกระจกกำลังสะท้อนภาพของขุนเขาที่ตั้งตระหง่านรวมไปถึงท้องฟ้าที่สดใส แน่ใจได้เลยว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่บนโลกที่คุณจะได้สัมผัสความงดงามแบบนี้
9.Ronda, Spain
เมืองโบราณที่มีอายุมาหลายศตวรรษซึ่งดูเหมือนจะทิ้งตัวลงอยู่เหนือหน้าผาแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่คุณจะได้เต็มอิ่มกับการเที่ยวชมถนนสายเก่าและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศเฉพาะตัวอีกด้วย
10.Český Krumlov, Czech Republic
ด้วยบรรยากาศของถนนที่ปูทางเข้าสู่ตัวเมืองที่มีบ้านเรือนแสนน่ารักและผู้คนที่เป็นมิตร ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันมีเสน่ห์มากมายแค่ไหน ที่จะมัดใจผู้มาเที่ยวชมให้ไม่รู้ลืม
11.Annecy, France
เหมือนเป็นชั่วโมงต้องมนต์ เมื่อคุณได้มายืนอยู่ ณ เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของทะเลสาบแห่งนี้ ลองหาเวลาไปเดินเล่นรอบเมืองและเยี่ยมชมปราสาทเก่าแก่ดูสิ รับรองว่าคุณจะต้องหลงรัก
12.Porto, Portugal
เมืองหลวงเก่าที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและความรื่นรมย์ของโปรตุเกสแห่งนี้ จะเก็บค่าผ่านทางของคุณเป็นความตื่นเต้นและประทับใจ ถ้าคุณชอบความคึกคักและสีสันของเมืองใหญ่ ก็ต้องที่นี่เลยถึงจะเหมาะเหม็ง!
13.Bergamo, Italy
สิ่งที่ทำให้ Bergamo แตกต่างจากที่อื่น คือคุณจะเพลิดเพลินกับการใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสำรวจถนนโบราณ และที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่านั้นคือ ร้านอาหารท้องถิ่นของที่นี่ มีพิซซ่าให้เลือกถึง 250 ชนิด!
14.Bordeaux, France
เมืองที่ตั้งตระหง่านตรงหน้าคุณนี้ จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบ นั่งจิบไวน์รสเลิศสักแก้ว ขณะมองไปรอบๆ แล้วคุณจะได้เรียนรู้ถึงความสุขของทุกช่วงเวลาในชีวิต
15.Albarracin, Spain
หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินผาหินแห่งนี้ ราวกับเป็นอาณาจักรสีชมพูของเหล่าเทพตัวน้อยในเทพนิยาย ถ้าหากว่าคุณได้มีโอกาสไปเดินบนถนนสายเล็กๆของเมือง Albarracin คุณจะรู้สึกเหมือนเวลากำลังหยุดนิ่ง และมันจะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม
รีบวางแผนกันให้ไว แล้วไปก่อนที่มันจะกลายเป็นแหล่งลงทัวร์อีกแห่ง ซึ่งพอถึงตอนนั้น ไม่รับประกันแล้วน้า ว่าจะฟินเท่าตอนนี้รึเปล่า
ที่มา : brightside.me