สมองของมนุษย์ผลิตความคิดได้มากถึง 12,000 ถึง 50,000 เรื่องต่อวัน แม้จะดูน่าทึ่งและน่าเหลือเชื่อแค่ไหน แต่ความจริงแล้วยังมีบางเรื่องที่คุณแสดงออกมา แต่คุณอาจจะไม่เข้าใจความหมายที่แฝงอยู่
ตามหลักจิตวิทยา พฤติกรรมของมนุษย์สามารถบ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง รวมถึงเรื่องที่เจ้าตัวก็อาจจะไม่รู้ ลองมาดูกันดีกว่า พฤติกรรมอะไรบ้างที่สามารถบ่งบอกตัวตนลึกๆ ของคุณได้บ้าง
1. การหลงลืมเป็นสัญญาณของสติปัญญาขั้นสูง
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการลืมมีความสำคัญเท่ากับการจดจำ การหลงลืมจริงๆ แล้วเป็นกลไกสำหรับการสร้างพื้นที่ว่างสำหรับข้อมูลที่จำเป็น และช่วยให้สมองไม่ต้องเปลืองพื้นที่และพลังงานไปกับเรื่องที่ลึกๆ แล้วคุณรู้ว่าไม่ต้องไปจำก็ได้
2. การถูกปฏิเสธ สามารถสร้างความเจ็บปวดเหมือนที่เกิดกับร่างกายได้
การศึกษาด้านประสาทวิทยาศาสตร์พบว่า การถูกปฏิเสธนั้นทำให้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับความเจ็บปวดทางกาย
ปฏิกิริยาของความเจ็บปวดทางอารมณ์และความเจ็บปวดทางกายนั้นคล้ายคลึงกันมาก เนื่องจากในระหว่างที่ความเจ็บปวดนี้เกิดขึ้นนั้น สารเคมีตามธรรมชาติ จะถูกปล่อยออกมาเหมือนกัน
3. ความมั่นคงจะปิดการเรียนรู้ของสมอง
ชีวิตที่ราบรื่น มั่นคง และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอาจฟังดูดี แต่จริงๆ แล้วมันอาจไม่ได้ดีอย่างที่คิด นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าการอยู่ภายใต้คอมฟอร์ตโซนจะปิดกั้นคุณจากการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเอง
4. คุณสามารถจำได้แค่ครั้งละ 3-4 เรื่องเท่านั้น
วิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าคุณจะลืมสิ่งสำคัญที่ต้องทำ เนื่องจากสมองของเราจะจดจำเรื่องราวต่างๆ พร้อมๆ กันได้เพียงครั้งละ 3-4 เรื่องเท่านั้น
5. 85% ของสิ่งที่เรากังวลไม่เคยเกิดขึ้นจริง
การศึกษาพบว่า ความคิดเชิงลบส่วนใหญ่ที่เราจินตนาการมักไม่เคยเกิดขึ้นจริง ซึ่งในการทดลอง อาสาสมัครถูกขอให้เขียนเรื่องที่พวกเขากังวลมาเป็นระยะเวลานาน และ 85% ของสิ่งที่ผู้เข้าร่วมการศึกษากังวลไม่เคยเกิดขึ้น หมายความว่ามีเพียง 15% เท่านั้นที่เป็นไปได้จริงๆ
6. ยิ่งคุณมีความสุขมากเท่าไหร่ คุณยิ่งอยากนอนน้อยลงเท่านั้น
มีการศึกษาด้านจิตวิทยาที่พบว่า ความโศกเศร้าหรือความรู้สึกเชิงลบช่วยกระตุ้นให้คุณรู้สึกง่วงและอยากนอนหลับได้มากกว่าปกติ ดังนั้น การมีความสุขจึงให้ผลลัพธ์ในทางตรงกันข้าม
7. ความหวาดกลัวเป็นยีนที่สามารถส่งต่อผ่านรุ่นต่อรุ่นได้
ความทรงจำและความกลัวสามารถส่งผ่านทางพันธุกรรมได้ หากคุณไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ คุณถึงได้กลัวบางสิ่งบางอย่างอย่างหาคำตอบไม่ได้ ไม่แน่ว่ามันอาจเป็นยีนที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ
8. คนเราจะยิ่งเปิดเผยมากขึ้นเมื่อพวกเขาเหนื่อย
หนึ่งในกลไกที่น่าทึ่งก็คือ เมื่อคุณตื่นตัวดีและแจ่มใส คุณจะสามารถควบคุมตัวเองและเลือกสิ่งที่อยากจะพูดได้ เเต่เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ร่างกายจะเหมือนถูกปลดล็อกจากการระวังตัวและสิ่งต่างๆ จะสามารถพรั่งพรูออกมาได้อย่างง่ายดาย
9. การใช้เงินกับคนอื่นทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น
การใช้เงินคือหนึ่งในกิจกรรมที่ผู้คนจะรู้สึกดีจากการได้ปลดปล่อยตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้เงินเพื่อคนอื่นจะยิ่งเกิดความรู้สึกเชิงบวกให้กับคนคนนั้น แต่อย่างน้อยที่สุด คุณต้องไม่ลืมที่จะควบคุมไม่ให้มันเลยเถิด
10. ช่วงวัย 18 – 33 ปี คือช่วงที่เครียดที่สุดของชีวิต
นักวิจัยเผยว่า ช่วงอายุที่เครียดที่สุดคือระหว่าง 18 ถึง 33 หลังจาก 33 ระดับความเครียดจะเริ่มลดลง มีรายงานด้วยว่าผู้หญิงรู้สึกเครียดมากกว่าผู้ชาย
11. คนโกหกเก่ง จะสามารถตรวจจับว่าคนอื่นโกหกได้ดีด้วยเช่นกัน
ทฤษฎีทางจิตวิทยาและประสาทวิทยาศาสตร์กล่าวว่าคนที่สามารถโกหกได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้น มักจะเก่งในการตรวจจับการโกหก ความลับอยู่ที่ พวกเขามีความสามารถในการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิด และรู้ว่าหากจะโกหก พวกเขาจะโกหกว่าอย่างไร
12. ใช้เวลาเพียง 4 นาที ในการเข้าใจว่าเราชอบใครซักคนและตกหลุมรัก
มีการทดสอบและพบว่า เวลาเพียง 90 วินาที – 4 นาที สามารถช่วยให้คนรู้ได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นดึงดูดพวกเขาหรือไม่ และมันจะพัฒนาไปเป็นความชอบหรืออาการตกหลุมรักได้ง่ายกว่าที่คุณรู้
13. มีคนมากถึง 9/10 ที่มีอาการหลอนกับการสั่น
จากการทดสอบพบว่า 9/10 คนมักคิดไปว่าโทรศัพท์ของพวกเขาจะสั่นอยู่ในกระเป๋า และเกิดอาการหลอนแบบนั้นอยู่บ่อยครั้ง
14. ยิ่งคุณมีทางเลือกมากเท่าใด คุณก็จะมีโอกาสตัดสินใจน้อยลงเท่านั้น
สิ่งนี้เรียกว่า” ความขัดแย้งทางเลือก” ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่าเมื่อมีตัวเลือกที่หลากหลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความคิดในด้านลบก็เริ่มปรากฏขึ้น และเมื่อถึงจุดหนึ่งจะทำให้คุณตัดสินใจไม่ได้
15. ช็อกโกแลตสามารถทำให้คุณรู้สึกมีความสุขได้มากกว่าการมีความรัก
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการมีแท่งช็อคโกแลตอยู่ในครอบครอง สามารถทำให้เกิดความรู้สึกที่น่าพึงพอใจมากกว่าการฟังเพลงโปรด การชนะลอตเตอรี หรือแม้แต่ตกหลุมรัก พวกเขาพิสูจน์มันโดยการสแกนและติดตามการเปลี่ยนแปลงของกิจกรรมบนพื้นผิวของสมอง ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาได้หลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้
เรื่องบางเรื่องชวนให้รู้สึกแปลกใจได้เสมอ โดยเฉพาะถ้ามันเกี่ยวข้องกับมนุษย์ เพราะแบบนั้นแหละโลกของจิตวิทยาถึงได้น่าสนใจยังไงล่ะ :)
ที่มา: brightside