เรซูเม่เป็นด่านแรกของการสมัครงาน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คุณจะถูกเรียกตัวได้สัมภาษณ์หรือไม่อาจตัดสินได้จากกระดาษแผ่นนี้แผ่นเดียว
แม้เรซูเม่เป็นบันทึกการทำงานในฉบับย่อๆ แต่กระนั้นหากไม่รอบคอบพอ อาจทำให้คุณชวดงานในฝันก็เป็นได้ ดังนั้น หากไม่ต้องการให้มีข้อผิดพลาดในเรซูเม่ของคุณ ลองมาดูข้อห้ามเหล่านี้ที่ Businessinsider รวบรวมไว้
1. ไม่จำเป็นต้องใส่จุดมุ่งหมายในอาชีพลงไปในเรซูเม่
เพราะหากคุณสมัครงาน มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าคุณกำลังต้องการงานอยู่ ยกเว้นว่าคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างเฉพาะอย่างเช่นอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลง ในกรณีนี้การเขียนสรุปสั้นๆ อาจจะมีประโยชน์
2. ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยสถานะความสัมพันธ์
ไม่ควรระบุสถานะความสัมพันธ์ ศาสนาที่นับถือ หรือหมายเลขประกันสังคมในเรซูเม่
3. ไม่จำเป็นต้องใส่งานอดิเรก
หากพิจารณาแล้วว่างานดิเรกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่กำลังสมัครก็ไม่จำเป็นต้องใส่ลงไป เพราะเปลืองพื้นที่หน้ากระดาษ และอาจทำให้บริษัทเสียเวลาไปด้วย
4. อย่าโกหก
CareerBuilder ทำการสำรวจจากนายจ้างที่รับสมัครงานกว่า 2,000 คนเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในเรซูเม่ ผลปรากฏว่าการโกหกโอ้อวดสรรพคุณเป็นตัวเลือกที่ยอดนิยมที่สุด
Rosemary Haefner หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ CareerBuilder เผยว่า ผู้สมัครควรเน้นทักษะที่พวกเขาสามารถนำเสนอได้ มากกว่าเน้นทักษะที่พวกเขาไม่อาจนำเสนอได้จริง
5. ระบุอายุลงไปอาจเป็นอุปสรรคในการได้งาน
Catherine Jewell นักเขียนแห่ง ‘New Résumé, New Career แนะนำว่าหากคุณไม่อยากถูกเลือกปฏิบัติเพราะอายุของคุณ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะลบวันที่สำเร็จการศึกษาออกจากเรซูเม่
6. อย่าเวิ่นเว้อ
J.T. O’Donnell นักเขียนและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์แนะนำอาชีพ Careerealism.com กล่าวว่าเมื่อคุณตั้งค่าขอบหน้ากระดาษ 0.5 นิ้ว และใช้ตัวหนังสือขนาด 8 pt. เพื่อให้เนื้อหาพอดีกับหนึ่งหน้ากระดาษมันเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง โดยเธอแนะนำว่าให้มีพื้นที่สีขาวเหลือให้มากสักหน่อย และเว้นระยะขอบไม่เกิน 0.8 นิ้ว
7. อย่าเปิดเผยแพลนวันหยุดพักผ่อนที่กำลังจะมาถึง
Gelbard ไม่แนะนำให้ใส่ข้อมูลเหล่านี้ลงไปในเรซูเม่ ซึ่งในบางประเทศการใส่ข้อมูลเหล่านี้ลงไปเป็นสิ่งที่ยอมรับได้โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยว แต่สำหรับการหางานในสหรัฐอเมริกาไม่ควรใส่ข้อมูลเหล่านี้ลงไปในเนื้อหาของเรซูเม่
8. รูปแบบเรซูเม่ที่ไม่สอดคล้องกัน
Amanda Augustine ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำแนะนำอาชีพและโฆษกของ TopResume อธิบายว่า รูปแบบของเรซูเม่มีความสำคัญพอๆ กับเนื้อหาภายใน เธอแนะนำว่ารูปแบบที่ดีที่สุดคือรูปแบบที่ทำให้นายจ้างสามารถแสกนอ่านได้อย่างง่ายดาย และสามารถหยิบเอาคุณสมบัติที่สำคัญของคุณออกมาได้ รวมทั้งเป้าหมายอาชีพของคุณด้วย ฉะนั้นเมื่อคุณได้ตัดสินใจเลือกรูปแบบเรซูเม่แล้ว ให้ยึดติดกับแบบที่เลือกตลอดไป ให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
9. อย่าใช้คำว่า ‘I’
Tina Nicolai ผู้ก่อตั้ง Resume Writers’ Ink เผยว่า ในเรซูเม่ไม่ควรใช้คำว่า “I,” “me,” “she,” หรือ “my” “อย่าเขียนเรซูเม่ในแบบบุคคลที่สามหรือบุคคลที่หนึ่ง ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่าทุกอย่างในเรซูเม่ของคุณมันเกี่ยวกับกับตัวคุณและประสบการณ์ของคุณทั้งสิ้น”
10. หลีกเลี่ยงการใช้ Present Tense ในการพูดถึงงานที่เคยทำ
Gelbard แนะนำว่า ไม่ควรอธิบายประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาโดยใช้ Present Tense ควรใช้ Tense นี้เฉพาะกับงานปัจจุบันที่กำลังทำอยู่เท่านั้น
11. ชื่ออีเมลต้องมีความเป็นมืออาชีพ
หากคุณยังใช้อีเมลแบบ [email protected] หรือ [email protected] อยู่ ถ้าอย่างนั้นก็ถึงเวลาที่ต้องสมัครอีเมลใหม่แล้วเพื่อให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
12. อย่าใส่ชื่อเจ้านายในเรซูเม่
Gelbard กล่าวว่า เหตุผลเดียวที่ชื่อเจ้านายควรอยู่ในเรซูเม่ คือในกรณีที่เขาเป็นบุคคลสำคัญและน่าประทับใจมากจริงๆ
13. ไม่ใช้ศัพท์ที่รู้กันเฉพาะภายในบริษัท
ในบริษัทหนึ่งๆ มักมีศัพท์เรียกที่เป็นคำเฉพาะสำหรับสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นคำที่รู้กันแค่ภายในองค์กรเท่านั้น เกรงว่าหากใส่ไว้ในเรซูเม่คนภายนอกอาจไม่เก็ทก็ได้
14. ข้อมูลเงินเดือน
ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลเงินเดือนลงในเรซูเม่ Nicolai เผยว่าบางคนใส่รายได้ต่อชั่วโมงที่เคยทำตอนเรียนมหาวิทยาลัยลงไปด้วย ซึ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ไม่จำเป็นเลย และอาจกลายเป็นการส่งสาสน์ที่ผิดพลาดได้
Amy Hoover ประธานบริหาร Talent Zoo กล่าวว่า “ไม่ควรระบุเงินเดือนที่ต้องการลงในเรซูเม่ ซึ่งเรซูเม่เป็นเอกสารที่บอกเล่าประสบการณ์และทักษะความสามารถ เงินเดือนจึงเป็นสิ่งที่ตามมาหลังจากกระบวนการสัมภาษณ์”
15. ลืมฟ้อนต์เก่าๆ ไปได้เลย
Hoover กล่าวว่า อย่าใช้ฟ้อนต์ Times New Roman และฟ้อนต์แบบ Serif เพราะว่ามันเก่าและล้าสมัย ควรใช้ฟอนต์ sans-serif แบบมาตรฐาน เช่น Arial เป็นต้น
นอกจากนี้ ควรระวังเรื่องขนาดตัวอักษรด้วย แม้ว่าจุดประสงค์ของคุณคือการทำให้เรซูเม่ดูดีและทันสมัย แต่ต้องอย่าลืมว่าควรอ่านง่ายด้วย
16. ฟ้อนต์อ่านยากก็ไม่ควรใช้เช่นกัน
ตัวเขียนภาษาอังกฤษ หรือฟ้อนต์ตวัดมีหางสวยๆ ผู้คนใช้กันเพราะอยากทำให้เรซูเม่ดูคลาสสิค แต่จากผลการศึกษาพบว่ามันยิ่งทำให้อ่านยากกว่าเดิม ทั้งยังส่งผลให้ความสนใจที่นายจ้างมีต่อคุณลดน้อยลงด้วย
17. ไม่จำเป็นต้องใส่คำอธิบายว่าทำไมถึงอยากได้งาน
เพราะหัวข้อนี้ควรอยู่ในจดหมายสมัครงาน หรือในบทสัมภาษณ์งานมากกว่า เรซูเม่ไม่ใช่พื้นที่สำหรับการอธิบายว่าเหตุใดคุณถึงเหมาะกับงานนี้ หรือทำไมคุณต้องการงานนี้
18. ไม่จำเป็นต้องใส่เกรดเฉลี่ย
หากคุณเป็นนักศึกษาใหม่ป้ายแดงและได้เกรดสูงเป็นที่น่าพึงพอใจ ก็สามารถระบุในเรซูเม่ได้ แต่หากคุณจบมาแล้วมากกว่า 3 ปี หรือ GPA ไม่ค่อยสวยก็อย่าระบุลงไปเลย
19. อย่าเปิดเผยเหตุผลในการลาออก
ผู้สมัครมักคิดว่าหากเขียนอธิบายในเรซูเม่ถึงเหตุผลที่ลาออก อาจทำให้มีโอกาสได้งานมากขึ้น ซึ่ง Nicolai บอกว่าความคิดนี้ผิดถนัด การเล่าเหตุผลว่าทำไมคุณถึงลาออกเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับเรซูเม่เลย ควรจะเก็บไว้พูดตอนสัมภาษณ์งานมากกว่า
20. ไม่จำเป็นต้องใส่ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมามากกว่า 15 ปี
หากคุณระบุในเรซูเม่ว่าเริ่มทำงานมาตั้งแต่ก่อนช่วงปี 2000 มีความเป็นไปได้ที่นายจ้างจะไม่อยากนัดสัมภาษณ์คุณ
ในกรณีที่คุณเป็นผู้มากประสบการณ์ ผ่านการทำงานมานานหลายปี ควรเอ่ยถึงการทำงานที่เกี่ยวข้องที่สุดเพียงในช่วง 15 ปีก็พอ
หวังว่าคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับนักล่างานไม่มากก็น้อย :)
ที่มา: businessinsider