เคยได้ยินการลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting หรือไม่ ซึ่งเป็นรูปแบบการลดน้ำหนักที่อาศัยการมีวินัยในตัวเอง ไม่ต้องเคร่งกับแคลอรี่หรือชนิดของอาหารที่ควรหรือไม่ควรกิน ใส่ใจเพียงช่วงเวลา เช่น 16:8 (ช่วงที่ไม่กิน 16 ชั่วโมง และช่วงกิน 8 ชั่วโมง) 19:5 (ช่วงที่ไม่กิน 19 ชั่วโมง และช่วงกิน 5 ชั่วโมง) หรือ 2:5 (ช่วงที่ไม่กินตลอด 24 ชั่วโมง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และช่วงกิน 5 วันในสัปดาห์)
ซึ่งรูปแบบการลดน้ำหนักแบบอดอาหารเป็นช่วงๆ นี้ค่อนข้างได้รับความนิยมอยู่เหมือนกัน ดังนั้น เราจึงมีข้อดีข้อเสียมาเป็นแนวทางให้ผู้ที่กำลังไดเอทตัดสินใจว่าควรลองหรือไม่
ข้อดี: ปรับปรุงองค์ประกอบของร่างกาย
เมื่อเข้าสู่การอดอาหาร เซลล์จะใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานแทนน้ำตาลกลูโคส โดยที่ร่างกายได้ประโยชน์จากไขมันสำรองมาเป็นแหล่งพลังงานแทนเชื้อเพลิงจากอาหาร
การไดเอทวิธีนี้จึงช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนัก ลดไขมันในร่างกาย และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อการเผาผลาญอาหาร
ข้อเสีย: ยากในการยึดปฏิบัติ
โดยเฉพาะทำติดต่อกันในระยะยาว ซึ่งต้องอดใจและปฏิบัติตามคำแนะนำ หรือกฎที่คุณตั้งไว้เอง Brad Pilon นักวิจัยและนักเขียน ‘Eat, Stop, Eat’ แนะนำว่า “เมื่อคุณเสร็จสิ้นการอดอาหารแล้ว คุณต้องแสร้งทำเป็นว่าการอดอาหารของคุณไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ต้องชดเชย ไม่ต้องมีรางวัลให้ตัวเอง ไม่มีเครื่องดื่ม หรือยาพิเศษอะไร”
ข้อดี: ป้องกันและลดความเสี่ยงต่อโรค
ทาง Cleveland Clinic เผยว่า นอกเหนือจากช่วยลดน้ำหนักแล้ว การอดอาหารสามารถช่วยควบคุมโรคเบาหวาน ลดคอเลสเตอรอล และลดความดันโลหิต
นอกจากนี้ ผลการศึกษาอื่นๆ ยังพบว่า Intermittent fasting ช่วยเพิ่มระยะเวลาในการนอนหลับ ซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดการติดเชื้อ
ข้อเสีย: อาจกระทบต่อชีวิตทางสังคม
หากกล่าวตามความจริง การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมส่วนใหญ่หนีไม่พ้นเรื่องอาหาร และเครื่องดื่ม เมื่อคุณอดอาหารคุณต้องมีความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะไม่หลงระเริงไปกับของน่ากิน หรือขบคิดหาทางเลือกอื่นเพื่อจะได้ไม่กระทบต่อชีวิตทางสังคม
ในระหว่างที่กำลังอดอาหาร มักเป็นไปด้วยความเหนื่อยล้า ระดับพลังงานต่ำกว่าปกติอยู่แล้ว จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณไม่อยากออกไปไหน
ข้อดี: เสริมสร้างการทำงานของสมอง
กระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวได้เร็วขึ้นในกรณีที่สมองได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพต่อความจำ พร้อมในการเรียนรู้ มีความตื่นตัว และชะลอการเสื่อมของเซลล์สมอง
ข้อเสีย: อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพบางอย่าง
ร่างกายของคุณอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนบางประการ เช่น ทำให้มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ รวมไปถึงศักยภาพของภาวะเจริญพันธุ์ ปัญหาเรื่องความไม่สมดุลของฮอร์โมน การนอนไม่หลับ ทำให้เกิดความเครียด หรือปัญหาต่อมไทรอยด์
ซึ่งด้วยความเห็นชอบ และการอนุมัติจากแพทย์ รวมทั้งการตรวจสุขภาพการทำงานของร่างกายอย่างละเอียดถี่ถ้วน การไดเอทแบบ Intermittent fasting จึงถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่
ที่มา: thisisinsider , curejoy
