หนึ่งในใบเบิกทางแรกสำหรับการเรียนต่อมหาวิทยาลัยต่างประเทศคือผลการทดสอบภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าตัวผู้เรียนเข้าใจภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี และ TOEFL ก็เป็นหนึ่งในการทดสอบภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ให้การยอมรับ ลองมาดูกันว่าการวัดระดับ TOEFL สำหรับใช้ยื่นสมัครเรียนต่อต่างแดนมีข้อดีข้อเสียตามมาอย่างไร
ข้อดีของการสอบ TOEFL
1. TOEFL ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในโลก
ทุกมหาวิทยาลัยในในสหรัฐอเมริกาให้การยอมรับผลการสอบนี้ รวมถึงมหาวิทยาลัยกว่า 10,000 แห่งจาก 130 ประเทศทั่วโลกที่ยอมรับผลการวัดระดับภาษานี้ ไม่ว่าจะเป็นแคนาดา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 100 แห่งทั่วโลกก็ให้การยอมรับ TOEFL เช่นกัน
2. จองสอบ TOEFL ง่ายมาก
สามารถจองสอบ TOEFL ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ผ่านทางออนไลน์ก็ทำได้ และมีศูนย์สอบกระจายอยู่ทั่วโลก
3. มีแหล่งเรียนรู้ฟรีมากมาย
ด้วยความที่การสอบ TOEFL ได้รับความนิยมในวงกว้าง จึงมีแหล่งเรียนรู้มากมายให้ผู้สนใจได้เตรียมตัวสอบด้วยตัวเอง และส่วนใหญ่ก็สามารถเรียนรู้ได้ฟรีอีกด้วย เพียงแค่ทำการค้นหาจาก Google
4. แบบทดสอบมีขอบเขตการประเมินที่ละเอียด
ซึ่งหมายความว่าไม่ใช่แค่คำตอบถูกหรือผิดเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับบริบท และคำตอบที่ยอมรับได้ เช่น ในส่วนของทักษะการพูดที่มีความเป็นกลางมากขึ้น โดยใช้ครูประมาณ 3-4 ท่าน หรือมากกว่าหนึ่งท่านในการสัมภาษณ์
ข้อเสียของการสอบ TOEFL
1. ในบางที่สนามสอบเต็มไวมาก
นั่นเป็นเพราะ TOEFL ได้รับความนิยมอย่างมาก และแม้ว่าการทดสอบจะจัดขึ้น 50 ครั้งต่อปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ในประเทศนั้นๆ ซึ่งอาจไม่ได้ที่นั่งสอบในทันทีทันใดต้องรอสอบรอบต่อไป
2. ทักษะต้องแม่น
ต้องแม่นทั้งการอ่าน การเขียน ไวยากรณ์ และการฟังเพราะสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ในการสอบ
3. ใช้เวลาสอบนาน
การทดสอบ TOEFL iBT® คาดการณ์ว่าใช้เวลาสอบประมาณ 5 ชั่วโมง โดยคุณต้องมีสมาธิจดจ่อได้นานๆ
4. ทักษะทางคอมพิวเตอร์
หากคุณไม่มีทักษะทางคอมพิวเตอร์ การสอบวัดระดับภาษานี้จะกลายเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิมพ์ เพราะต้องเขียนเรียงความทั้งหมดภายในเวลาที่กำหนด และยิ่งพิมพ์ได้ไวเท่าไหร่คุณก็ยิ่งประหยัดเวลาได้มากขึ้นเท่านั้น
แม้การสอบวัดระดับภาษานี้จะมาพร้อมกับความยากมหาหิน แต่ก็เชื่อว่าไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของคนที่พยายามอย่างเต็มที่
ที่มา: mastersportal