เพราะการเรียนต่อต่างประเทศนั้น ให้อะไรที่มากกว่าแค่วุฒิการศึกษา คุณจะได้ทั้งภาษา ประสบการณ์ และโอกาสที่ดีมากมาย แต่หากทุนทรัพย์คุณมีไม่มาก การขอทุนการศึกษาก็เป็นอีกช่องทางที่จะช่วยให้การไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นสมหวัง มาดูกันดีกว่าว่าต้องวางแผนยังไงถึงจะขอทุนเรียนต่อต่างประเทศได้แบบผ่านฉลุย!
การได้ไปเรียนต่อในต่างประเทศนั้น อาจเป็นความฝันของใครหลายคนที่มองว่าการศึกษาคือ สะพานสู่ความสำเร็จและสิ่งที่ดีกว่า ซึ่งหากที่บ้านมีฐานะดีสามารถส่งให้เรียนได้แบบไม่เดือดร้อนก็ถือว่าโชคดีไป แต่สำหรับใครที่บ้านไม่ได้มีทุนทรัพย์มากมาย การขอทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อต่างประเทศ ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะทำให้ฝันของคุณเป็นจริงได้
แต่ต้องทำอย่างไร? เริ่มต้นจากตรงไหน? วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้คุณวางแผนเพื่อขอทุนไปเรียนต่างประเทศได้แบบสบายๆ มาฝากกัน
1. เช็กความต้องการและความสามารถของตัวเอง
ก่อนอื่นเลยคุณต้องรู้ตัวเองว่า คุณต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศสาขาไหน เช่น ไปเรียนต่อยอดความรู้จากสาขาเดิมที่เรียนมา หรืออยากไปเรียนในสาขาใหม่ที่ต่างจากเดิม ลองสำรวจความต้องการของตนเองดูว่าเป้าหมายที่คุณต้องการไปเรียนต่างประเทศนั้นต้องการอะไร หรือจะนำไปใช้ยังไงต่อได้บ้าง
จากนั้นก็เช็กความสามารถของตัวคุณเองว่าหากต้องการไปเรียนต่อต่างประเทศในสาขาที่ต้องการนั้น พื้นฐานความรู้ที่คุณมีนั้นอยู่ในระดับไหน เช่น ผลคะแนนภาษาอังกฤษต่างๆ เช่น IELTS, TOEFL, TOEIC ว่าจะไปยื่นขอทุนที่ไหนได้บ้าง รวมไปถึงความสามารถในการจ่ายเงินเพื่อศึกษาต่อด้วย เพราะการขอทุนเพื่อเรียนต่อต่างประเทศนั้นมีทั้งแบบต้องทำงานใช้คืน / ไม่ใช้คืน, ทุนค่าเทอม100% / 75% /50% หรือทุนที่ให้ค่าครองชีพด้วย
2. เลือกประเทศและชนิดของทุนที่ต้องการ
เมื่อคุณรู้ความต้องการและความสามารถของตนเองแล้ว จากนั้นก็มาค้นหาดูว่าทุนแบบไหนที่เหมาะสำหรับคุณ ซึ่งคุณสามารถค้นหาข้อมูลทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อต่างประเทศจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่มีให้บริการมากมายเกี่ยวกับข่าวสารข้อมูลทุนการศึกษาของประเทศต่างๆ เช่น www.scholarship.in.th , www.findaphd.com เป็นต้น
โดยเข้าไปค้นหาสาขาที่ต้องการเรียน รวมทั้งประเทศที่คุณต้องการจะไปเรียนต่อว่ามีหรือไม่ หากเจอทุนที่ตรงกับเป้าหมายของคุณแล้วก็ลองเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของมหาวิทยาลัยนั้นๆ เพื่อศึกษารายละเอียดให้มากขึ้นว่าทุนนั้นมีที่มาอย่างไร และมีรายละเอียดการให้ทุนแบบไหนให้บ้าง
ตัวอย่างทุนเรียนต่อต่างประเทศที่น่าสนใจ
– ทุน Singa ของสิงคโปร์ : สำหรับสายวิทย์ วิศวะ เทคโนโลยี เป็นทุนแบบให้ฟรี โดยเรียนที่ NUS หรือ NTU ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกเลยทีเดียว ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากไทย บินไปกลับได้สบายค่าตั๋วไม่แพง
– ทุน DAAD ของเยอรมัน : มีสาขาวิชาให้เลือกมากมาย เรียนจบอาจได้ทำงานในเยอรมันต่อ และมีทุนเรียนภาษาเยอรมันแถมให้ ที่สำคัญคือใครมีครอบครัวแล้วต้องการพาไปอยู่ด้วยก็จะได้เงินทุนเพิ่มด้วยนะ
– ทุนรัฐบาลเกาหลีใต้ : สำหรับคนที่หลงใหลในประเทศเกาหลีใต้ และต้องการศึกษาหาความรู้ในประเทศที่ให้ทั้งทุนเรียนภาษาและทุนปริญญาแบบ (1+2 ปี) โดยไม่ต้องใช้ทุนแต่อย่างใด
– ทุนอังกฤษ Chevening : เป็นทุนที่ไม่มีข้อผูกมัด ยกเว้นต้องกลับมาทำงานที่เมืองไทยสองปีหลังเรียนจบ ซึ่งทุนนี้ มีเครือข่ายผู้รับทุนที่ใหญ่และมีเกียรติแห่งหนึ่งของโลกเชียวนะ
– ทุนไต้หวัน : สำหรับไปเรียนต่อปริญญาโท ได้เงินเดือนเดือนละ 30,000 บาทโดยประมาณจนจบหลักสูตร ทุนครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งเครื่องบิน ที่พัก ค่าหนังสือ แถมยังมีหลักสูตรปรับพื้นฐานภาษาจีนให้ด้วย
– ทุนรัฐบาลจีน (CSC) : เป็นทุนที่คนไทยได้กันเยอะมาก เรียนจบไม่ผูกมัด ได้ภาษาจีนมาเพิ่มด้วย แถมบางหลักสูตรเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนทุนที่ได้ครอบคลุมทั้งการเดินทางทั้งในทั้งนอกประเทศ ค่าอุปกรณ์เครื่องใช้ ที่พัก สวัสดิการ เงินเดือน
– ทุนฟูลไบรท์ : ทุนของสหรัฐอเมริกา เป็นทุนการศึกษาด้านภาษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และวิทยาศาสตร์ โดยรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขอแค่เรียนจบห้ามหางานในอเมริกา 2 ปี แค่นั้น
**TIPS : อย่าลืมตรวจสอบสำหรับผู้ที่จะทำงานราชการว่ามหาวิทลัยหรือหลักสูตรนั้นๆ เป็นที่ยอมรับของ ก.พ.หรือไม่
3. จัดเตรียมเอกสาร
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะสมัครเรียนมหาวิทยาลัยและยื่นขอทุนเรียนต่อต่างประเทศจากที่ไหนแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็ต้องเริ่มจัดเตรียมเอกสารเพราะเอกสารหลายๆ อย่างต้องใช้เวลา เช่น การทำ Passport, ตรวจสุขภาพ, เอกสารทางด้านการเงิน, Transcription เป็นต้น
ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัย และแต่ละทุนก็มีข้อกำหนดที่ต่างกัน เช่น Resume or CV, ประวัติส่วนตัว, ประสบการณ์ต่างๆ, ใบประกาศนียบัตร, จดหมายรับรองจากบริษัท/ที่ทำงานหรืออาจารย์, แผนการศึกษาต่อ เป็นต้น
**TIPS : หาก Resume ของคุณดูว่างเปล่า ใบประกาศนียบัตรต่างๆ ก็ไม่มี คุณสามารถที่จะเพิ่ม Certificate ได้ทั้งแบบฟรีๆ หรือเสียเงิน ผ่านการเรียนออนไลน์ MOOC ไม่ว่าจะเป็น edX, Coursera, Udemy, Thaimooc และอื่นๆ อีกมากมาย ใช้เวลาไม่มาก และสามารถเลือกหัวข้อความรู้ที่คุณต้องการได้อีกด้วย แค่นี้โปรไฟล์ของคุณก็ดูน่าสนใจขึ้นแล้ว!
4. ยื่นเอกสารสมัครเข้าเรียนและยื่นขอทุน
การสมัครขอทุนเพื่อเรียนต่อต่างประเทศนั้นมีทั้งแบบสมัครทาง Online และแบบจดหมาย เมื่อเตรียมเอกสารทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็สามารถกดเข้าไปทำการสมัครได้เลย หรือหากต้องส่งเป็นเอกสารทางจดหมาย ก็ควรจัดเตรียมเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วน จัดลำดับเอกสารให้ดี ใส่เอกสารในซองพลาสติกอีกหนึ่งชั้น จากนั้นก็ใช้บริการส่งเอกสารไปต่างประเทศ แล้วอย่าลืม copy เอกสารที่ส่งไปทั้งหมดไว้ที่ตัวเองอีก 1 ชุดด้วย เผื่อเอกสารตกหล่นเสียหายระหว่างทางจะได้มีสำรองไม่ต้องเสียเวลาเตรียมทั้งหมดใหม่
หลังจากนั้นก็รอฟังผลการสมัคร ซึ่งหากคุณเตรียมตัวมาอย่างดีตามที่เราแนะนำการขอทุนไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับการตอบรับ แต่ก็ต้องเตรียมใจไว้อย่างหนึ่งว่า อาจมีคู่แข่งที่ประวัติดีกว่า เตรียมตัวมาพร้อมมากกว่ามาแย่งทุนจากคุณไปได้เช่นกัน ฉะนั้น หากพลาดหวังเราก็ยังมีอีกทางเลือกที่อยากจะแนะนำนั่นก็คือ
การกู้เงินสินเชื่อเพื่อการศึกษาจากธนาคาร
ปัจจุบันมีสถาบันการเงินหลายแห่งมีโครงการสินเชื่อเพื่อการศึกษาออกมา เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาติและธนาคารออมสิน เพื่อให้คนที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ขาดทุนทรัพย์ได้กู้เงินเพื่อไปเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อ
ซึ่งการจะเลือกว่าจะกู้เงินสินเชื่อเพื่อการศึกษาจากธนาคารไหนดีนั้น ควรเลือกดูจากวงเงินสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาในการผ่อนชำระ อย่างสินเชื่อเพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ จากธนาคารกรุงไทย ที่เราเลือกมาแนะนำนั้น คุณสามารถกู้เงินสินเชื่อเพื่อการศึกษาได้แบบไม่จำกัดวงเงิน แต่ต้องเป็นค่าใช้จ่ายตามที่ใช้จริง เช่น ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือและอุปกรณ์การศึกษา รวมถึง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต่อ
5 เทคนิคหาเงินระหว่างเรียนต่างประเทศ โดยไม่ต้องหางานพาร์ทไทม์
1. เป็นติวเตอร์สอนพิเศษ ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์
2. หาของมาขายใน eBay เจาะกลุ่มลูกค้าในเมืองไทย
3. ให้คำปรึกษาแก่คนไทยที่ต้องการไปเรียนต่อ
4. เขียน Blog แชร์ประสบการณ์ หารายได้จากค่าโฆษณา
5. ปั้นตัวเองเป็น Youtuber หารายได้จาก Channel
คุณสามารถขอกู้เงินสินเชื่อไปศึกษาต่อในสถาบันต่างประเทศที่สำนักงาน ก.พ.รับรอง ไม่ว่าจะไปเรียนต่อด้านภาษา ฝึกอบรมเพิ่มเติมในสายวิชาชีพที่ทำงานอยู่ หรือเป็นนักเรียนโครงการ A.F.S. ก็สามารถยื่นกู้ได้
ซึ่งหากคุณเป็นผู้ยื่นกู้เพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศเอง โดยมีรายได้ที่แน่นอน และรับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย ก็สามารถยื่นกู้เงินสินเชื่อเพื่อการศึกษาได้แล้ว หรือหากยังเป็นนักเรียนนักศึกษาก็สามารถให้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองยื่นกู้เงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายขณะที่เรียนต่อต่างประเทศให้ได้ ซึ่งทางกรุงไทยให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนนานถึง 10 ปี
**คุณรู้หรือไม่! บัตรกรุงไทย Travel Card นั้นเป็นส่วนหนึ่งของบริการ iBanking หรือ Mobile banking ซึ่งสามารถใช้บริการผ่านแอปฯ Krungthai NEXT ได้ มาสรุปสิ่งที่ แอปฯ ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องธุรกรรมการเงินกันดังนี้
– เช็กข้อมูลบัญชีเงินฝาก ดอกเบี้ยเงินฝาก เงินเข้า-ออก
– เติมเงินมือถือและชำระบิลต่างๆ
– ชำระเงินกู้ เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล สินเชื่อ SME หรืออื่น ๆ
– เช็กอัตราแลกเปลี่ยน และแลกเงินต่างประเทศถึง 10 สกุลเงินผ่านแอปฯ
– ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล
– การลงทุนเป็นเรื่องง่าย จองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์
– Video Call เจ้าหน้าที่ธนาคารให้ทำธุรกรรมทางการเงินให้
เพราะการศึกษาเป็นรากฐานของความสำเร็จ มุ่งมั่น ตั้งใจ วางแผนการขอทุนไปเรียนต่างประเทศให้พร้อมตามที่เราแนะนำไว้ เชื่อเถอะว่าความฝันที่จะได้ไปเรียนต่อต่างประเทศของคุณไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน!
ที่มา: medium.com , ktb.co.th , unsplash.com