ภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในภาษาที่แปลกประหลาดที่สุด อีกทั้งยังเป็นภาษาที่ได้รับการศึกษาอย่างละเอียด และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามีงานวิจัยเปิดเผยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่โดดเด่น รวมถึงแปลกๆ เกี่ยวกับภาษาอังกฤษมากมาย
อยากรู้กันไหมล่ะ? ถ้าอยากรู้ก็ต้องตามไปดูกันทั้ง 4 ข้อดังนี้
#1 ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาราชการของประเทศอังกฤษ
เห็นได้จากภาษาที่ใช้เป็นคำขวัญของ British Crown อย่าง “[Mon] Dieu et mon Droit“ นั้นเป็นภาษาฝรั่งเศส เรียกได้ว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ แต่ไม่ใช่ภาษาราชการของประเทศอังกฤษ เอกสารกฎหมายและเอกสารทางการอื่นๆ จำนวนมากเขียนด้วยภาษา Anglo-Norman French
#2 การเน้นคำจำเป็นมากในภาษาอังกฤษ
เพราะหากเน้นคำผิด ความหมายของประโยคก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงตามคำที่ถูกเน้น ดังนั้นหากกำลังเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองให้ใส่ใจกับจุดที่ควรเน้นเพื่อที่จะไม่สร้างความเข้าใจผิดๆ ในการสื่อสาร ตัวอย่างดังนี้ (คำใน [] คือคำที่ถูกเน้น)
– [I] never said she stole your money. (Someone else did)
– I [never] said she stole your money. (never said that)
– I never [said] she stole your money. (implied it in some other way)
– I never said [she] stole your money. (she didn’t, someone else did)
– I never said she [stole] your money. (maybe she borrowed it)
– I never said she stole [your] money. (the money wasn’t yours)
– I never said she stole your [money]. (she stole something else.)
#3 ต้องสะกดและออกเสียงให้ถูกต้อง
เช่นคำว่า photograph และ photographer แค่เพียงเติม -er ก็เปลี่ยนความหมายทันที นอกจากนั้นการเน้นคำ การออกเสียงก็ส่งผลต่อความหมายเช่นกัน เช่น “PHO-to-GRAPH” และ “pho-TO-graph-er” เป็นต้น
เดียวกันกับคำอื่นๆ ที่เมื่อเปลี่ยนหมวดหมู่ หลักไวยากรณ์ก็เปลี่ยนตาม ดังนี้ biology/biological หรือ super/superstition เหล่านี้เป็นสาเหตุที่จำเป็นต้องสะกดคำและออกเสียงในภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง
#4 อักขระ “&” เคยเป็นอักษรตัวที่ 27 ของตัวอักษรภาษาอังกฤษ
ตัวอักษร & มักใช้ในความหมาย ‘และ’ เคยเป็นตัวอักษรสุดท้ายในภาษาอังกฤษ และนี่คือตัวอย่างจากหนังสือเรียนภาษาอังกฤษใรปี 1863
ที่มา: thelanguagenerds