ในปัจจุบันการล้างมือและรักษาความสะอาดอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญมาก! โดยเฉพาะเมื่อเกิดอาการไอ จาม การสัมผัสปาก จมูก หรือจะหยิบจับอะไรเข้าปาก ก็ควรล้างมือให้เป็นกิจวัตรและเป็นนิสัย
อย่างไรก็ตาม การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลฆ่าเชื้อบ่อยๆ ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้มือแห้งหรือระคายเคืองมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแทน
โดยแพทย์ผิวหนังอย่าง Dr. Ismat ได้ให้คำแนะนำในกรณีนี้ไว้ว่าผิวหนังที่ระคายเคืองมีความเสี่ยงที่จะเป็นรอยแตกและเกิดบาดแผล ยิ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
จึงจำเป็นต้องรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่เสมอ เพื่อผิวที่สุขภาพดีและปราศจากเชื้อโรค ซึ่งมีขั้นตอนเบสิก และง่ายต่อการปฏิบัติตามได้ดังนี้
#1 ใช้แฮนด์ครีมที่มีประสิทธิภาพ
ควรเลือกใช้ครีมบำรุงมือที่ดีและไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง เนื่องจากการบำรุงมือให้ชุ่มชื่นระหว่างวันวันละหลายๆ ครั้งนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรเลือกมองหาแฮนด์ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอีและเซราไมด์ ทั้งยังเติมสารเคมีให้น้อยที่สุด เพื่อเติมเต็มและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น ป้องกันรอยแตกร้าว
#2 ใช้สบู่ที่ไม่ทำให้ระคายเคือง
สบู่หลายๆ ยี่ห้อก็ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเช่นกัน โดยสบู่ยี่ห้อที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนำไว้คือ Aveeno, Dermol และ Oilatum เป็นต้น เพราะเป็นยี่ห้อที่มีประสิทธิภาพในกากรทำความสะอาดแต่ไม่ทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง
#3 ใช้เจลล้างมือที่ให้ความชุ่มชื้น
เพราะการอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถล้างมือได้บ่อยๆ นั้น การพกเจลล้างมือจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้หากยังพอหาซื้อได้ การใช้เจลที่ทั้งฆ่าเชื้อได้และให้ความชุ่มชื้นได้นั้นจะดีเป็นอย่างมากเลยล่ะ
#4 ทามอยเจอร์ไรเซอร์ และสวมถุงมือขณะนอนหลับ
จำไว้วว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็จำเป็นต้องล้างมือ และถ้าหากไม่สามารถหาครีมต่างๆ ที่ได้แนะนำไปในข้างต้น การใช้ครีมทาผิว วาสลีน หรือครีมที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อทามือ และสวมถุงมือทับก่อนนอนหลับในตอนกลางคืนก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
วิธีเหล่านี้เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ เพราะนอกจากจะล้างมือให้สะอาดแล้วก็ควรหมั่นระวังอย่าให้เกิดบาดแผล หรือรอยแตกที่มือ รักษาสุขภาพร่างกายกันด้วยนะ!
ที่มา: metro