ในโลกโซเชียลนั้น มีเรื่องราวประหลาดเกิดขึ้นมากมาย เพื่อนๆคนไหนที่ชอบเล่นโซเชียลมากๆจะรู้เลยว่าเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยมาก และไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมใครต้องทำอะไรแบบนั้น ฮ่าๆ เคยสังเกตุเพื่อนๆหรือนิสัยส่วนตัวของเราเองในโซเชียลเรากันหรือเปล่าครับ ว่าเป็นแบบนี้หรือเปล่า
1. คนรู้เรื่องของคนที่เขาเกลียดดีกว่าคนที่รัก
2. คนชอบถามหาหลักฐาน แต่เวลาตัวเองอ้าง มักไม่ค่อยจะมีหลักฐาน
3. เขียนยาวไปคนไม่อ่าน
4. เขียนสำนวนเคร่งขรึมคนก็ไม่อ่าน
5. ชาวเว็บไม่ชอบเรื่องซีเรียส ถึงเป็นเรื่องเครียดก็ต้องเขียนให้ฮา
6. ยอดคนคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น เป็นเหมือนยอดภูเขาน้ำแข็ง
7. มีคนคอยตามอ่านเงียบๆ มากมายที่ไม่โผล่ตัวออกมา
8. บางทีเรื่องที่เถียงกันไม่มีสาระอะไร แต่เถียงกันไปเพราะแค่อยากเอาชนะ
9. ปิดจอคอมไปนอนก่อนซะ อาจจะดีกว่านั่งเถียงแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ
10. เกรียนปากดีตามเว็บบอร์ด พอเจอตัวจริงมักเจี๋ยมเจี้ยม
11. แต่คนอัธยาศัยดีในบอร์ด ตัวจริงก็อัธยาศัยดีเหมือนกัน
12. มนุษย์สายพันธุ์กูเกิลรู้ทุกเรื่อง แต่ถ้าคุยลึกๆ จริงๆ แล้วจะไม่รู้สักเรื่อง
13. แถมวิเคราะห์ วิจารณ์ ไม่ได้อีกตะหาก
14. เรื่องดราม่ามักจบลงด้วยคำว่า “ขอโทษ”
15. แต่ถ้ามีเรื่องครั้งใหม่ เรื่องเดิมก็จะถูกขุดโคตรเหง้าศักราชมายำต่อ
16. คำด่าในเว็บ โดยมากมักจะไม่ใช่คำด่าจริงๆ ที่คนพิมพ์กล้าพูดต่อหน้า
17. คนด่าบางทีก็ลืมไปว่าตัวเองเคยด่าเรื่องอะไรไว้
18. แต่คนถูกด่ามักจะไม่ลืม
19. คอมเมนต์มักถูกชี้นำด้วยความคิดเห็นแรกเสมอ
20. โดยเฉพาะเว็บเด็ก X และพันติ๊ปเฉลิม X
21. เวลาไพรม์ไทม์ในการตั้งสเตตัส คือ 17.00-22.00
22. แต่เวลาอัพบล็อกจะเป็น 9.00-12.00 และ 19.00-23.00
23. อยากดราม่าให้เริ่มประเด็นต่อไปนี้ การเมือง สถาบันการศึกษา ภาษา ศาสนา ความเชื่อ และ XXX
24. แล้วอีกไม่นานคุณก็จะได้พาดหัวขึ้นดราม่าแอดดิคเอง
25. อีกวิธีคือไปหาเรื่องเมมเบอร์ดังๆ
26. เกือบทุกความคิดเห็นพร้อมจะเปลี่ยนข้างเมื่อกระแสเปลี่ยน
27. ทั้งที่ข้อเท็จจริงมันไม่เปลี่ยน
28. คนที่ไม่เปลี่ยนข้างมีสองกรณี คือเกรียน กับ มั่นใจ
29. ซึ่งทั้งสองประเภทแยกออกได้จากลักษณะการใช้คำ
*30. คนตั้งกระทู้/เขียนบล็อกมีสามแบบ
31. หนึ่งคือเขียนแล้วทิ้ง กลับมาดูแต่ไม่ให้ความเห็นตอบ
32. สองคือตะบี้ตะบันขยันตอบมันทุกคอมเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์หาเรื่องหรือคอมเมนต์ดีๆ
33. สามคือเลือกตอบเฉพาะคอมเมนต์ที่พอใจจะตอบหรือมีสาระพอจะตอบ
34. หลายคนอ่านแค่หัวเรื่องแล้วพิมพ์ตอบเลย
35. ซึ่งทำให้เกิดดราม่าหรือเรื่องฮา ขึ้นอยู่กับความซีเรียสของเนื้อหาและคำตอบ
36. แต่หลายคนอ่านจนครบแล้วก็ยังตอบไม่เข้าเรื่อง
37. เรียกว่าอ่านหนังสือไม่แตก เป็นปัญหาของระบบการศึกษาภาษาไทย
38. ทำให้เกิดดราม่ามากมาย หาได้ตามเว็บบอร์ดทั่วไป
39. การเถียงกันบนกระทู้สาธารณะ ไม่ร้ายเท่าการถูกส่งเมล์ด่า เอ็มเอสเอ็นด่า หรือหนักสุดคือโทรตามด่า
40. กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นโรคจิตคุกคาม คนที่เคยโดนควรแจ้งตำรวจลงบันทึกประจำวัน
41. อย่าปล่อยให้คนโรคจิตบนเน็ตลอยนวล
42. คนที่อ้างว่าเป็นกลาง ไม่เคยเป็นกลางจริงๆ
43. บางทีคนเลือกข้างยังเป็นกลางกว่า
44. อำนาจโฟโต้ช็อปเหนือทุกสิ่ง
45. แต่ที่เหนือกว่าคือ ICT
46. เพราะประเทศนี้มีระบบกรองข้อมูลจากต่างประเทศระดับสูงที่มีเพียงสามประเทศในโลก
47. ซึ่งอีกสองประเทศคือจีนแดง และเกาหลีเหนือ
48. อย่าซีเรียสกับเรื่องทุกเรื่องที่เกิดขึ้นบนสังคมอินเตอร์เน็ต
49. สุดท้ายแล้วเราก็ต้องทำงานหาเงินมาจ่ายค่าไฟ-ค่าเน็ตเองอยู่ดี อิอิ
อ่านแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกันนะครับ ใครที่พบเรื่องราวแปลกประหลาดเพิ่มเติมก็คอมเม้นกันมาได้เลยครับ อย่างไรก็ตามนะครับ โซเชียลเราเล่นเพื่อผ่อนคลาย อย่าเอามาเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต หรือหาเรื่องไปทะเลาะกับใครเลยนะคร้าบ
ที่มา: campus-star