หลายคนประสบปัญหาในการอ่าน Passage ยาวๆแล้ว ตีความหมายไม่ค่อยได้ ซึ่งส่งผลในการเรียนและการทำข้อสอบวัดระดับต่างๆ หากเพื่อนๆมีเวลาที่จะเตรียมตัวฝึกฝน
ขอให้เพื่อนๆนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ได้เลยนะครับ รับรองเลยว่าเพื่อนๆสามารถอ่านได้เร็วขึ้นและแปลความหมายได้ครอบคลุมอีกด้วย
1 การเริ่มอ่านจากหนังสือง่ายๆ
สำหรับนักอ่านหน้าใหม่นั้น แม้แต่หนังสือของเด็กๆ นิตยสาร หรือหนังสือพิมพ์ก็อาจจะยากเกินไป เพราะฉะนั้นไม่ต้องอายเลยที่จะไปซื้อนิทานภาษาอังกฤษของเด็ก 3 ขวบมาอ่าน ซึ่งการอ่านแบบนี้จะทำให้เราเข้าใจและจับรูปแบบประโยคได้ง่ายยิ่งขึ้น
2 อ่านมากกว่าคนอื่น
เหมือนกับหลักการการฝึกฝนทั่วๆ ไปนั่นแหละครับ ถ้าเรายิ่งอ่านมาก ความชำนาญก็จะเพิ่มมากขึ้นตาม เราก็อาจจะต้องอ่านตั้งแต่ 2 รอบ 3 รอบ หรือกระทั่ง 4 รอบให้เข้าใจทั้งหมด คำแนะนำที่ดีก็คือ ให้พกหนังสือติดตัวอยู่ตลอดเวลาครับ เพราะว่าเวลาว่างๆ ระหว่างวันของเรามีเยอะพอสมควรเลยทีเดียว และอย่าลืมเชียวว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
3 ใช้เทคนิคอ่านแบบ Skimming
การอ่าน Skimming ก็คือ การอ่านรอบแรกแบบผ่านๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าพูดถึงอะไร และเนื้อเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นอย่างไร จากนั้นรอบที่ 2 ก็เริ่มจับใจความสำคัญ จดโน้ต โดยการเน้นจดศัพท์ที่ไม่เข้าใจ แล้วจึงนำคำศัพท์เหล่านั้นมาหาความหมาย ก็จะช่วยให้เราเข้าใจได้มากขึ้น
4 อย่าใช้ติดการดิคชันนารีบ่อยๆ
แม้การเปิดดิคชันนารีบ่อยๆ จะช่วยให้รู้ความหมายแต่ละคำอย่างถ่องแท้และถูกต้อง แต่การเปิดอ่านไปซะทุกคำมันทำให้เกิดความเบื่อหน่ายแก่ผู้อ่านเป็นอยากมาก เชื่อหรือไม่ว่าชาวต่างชาติบางคนก็ไม่เข้าใจคำศัพท์ในภาษาตัวเองเช่นกัน !!! แต่ก็อ่านข้ามไปโดยใช้คำแวดล้อมคำนั้นๆ มาช่วยแปลความหมาย แล้วจึงค่อยมาเปิดหาความหมายคำที่สำคัญและอยากรู้จริงๆ ในตอนสุดท้าย
5 สู้ให้สุด และห้ามท้อถอย
เรื่องนี้นับได้ว่าสำคัญที่สุดเลยครับ หลายคนอาจจะท้อถอยเพราะเจอคนรอบข้างบอกว่า อ่านไปเท่าไรก็ไม่เก่งหรอก หรือเห็นคนที่มาอ่านทีหลังแล้วไปได้เร็วกว่า เลยเกิดอาการน้อยใจขึ้น สิ่งสำคัญก็คืออย่าไปคิดถึงสิ่งพวกนี้
ให้ตั้งเป้าหมายโดยการแข่งขันกับตัวเอาเอง ดูการพัฒนาของเราไปเรื่อยๆ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วพยายามทำตามเป้าหมายอย่างช้าๆ และตั้งใจ
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จได้ในวันเดียวฉันท์ใด ภาษาอังกฤษก็ไม่สามารถฝึกให้เก่งได้ภายในวันเดียวฉันท์นั้น ฉะนั้นเพื่อนๆมีโอกาสได้รู้เทคนิคดีๆแบบนี้แล้ว อย่าลืมที่จะฝึกฝนตัวเองตลอดนะครับ
ที่มา: eduzones