ไม่ว่าประเทศกำลังพัฒนา หรือประเทศพัฒนาแล้ว ก็หนีไม่พ้นเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับไปได้หรอกนะคะ ตราบใดที่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถหาคำตอบได้หมด หรือตราบใดที่คนโบราณยังสร้างเรื่องไว้หลอกลูกหลานให้เดินชีวิตไม่ประมาท จนเกิดเรื่องเล่าปากต่อปากมาได้นั้น ความเชื่อก็จะไม่หมดไป
ลองมาดูความเชื่อของประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกากันดีกว่าค่ะ ว่าเขามีความเชื่ออย่างไรบ้าง
1. การจาม
ว่ากันว่าการจามทำให้ประตูวิญญาณเปิด วิญญาณของเราอาจจะหลุดลอยออกมาทางปาก แล้ววิญญาณชั่วร้าย หรือซาตาน จะเข้าฉวยโอกาสเข้ามาสิงร่างได้ ดังนั้นผู้คนจะพูดกับคนที่จามว่า เบลสยู (bless you) ซึ่งหมายถึง ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง เพื่อเป็นการป้องกันวิญญาณร้ายเข้ามาสิงร่าง
2. บันไดลิง
ชาวอเมริกันจะไม่เดินลอดใต้บันไดลิงที่ตั้งพิงกำแพง เพราะเชื่อว่าการตั้งบันไดลิงแบบนั้นจะทำให้เกิดช่องว่างรูปสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตรีเอกภาพ แทนพระบิดา พระบุตร และพระจิต ตามคัมภีร์ไบเบิล การเดินลอดใต้บันไดจึงเปรียบเหมือนการลบหลู่ และปฏิเสธเอกภาพ อาจนำมาซึ่งความโชคร้าย
3. วิชโบน
เมื่อถึงวันคริสมาสต์ ผู้คนจะย่างไก่งวงกิน ซึ่งไก่ง่วงจะมีกระดูกรูปตัววี อยู่ระหว่างคอกับอก เรียกว่า วิชโบน (wishbone) มีความเชื่อว่าหากจับกระดูกไว้คนละด้านแล้วขอพร จากนั้นกระชากออกพร้อมกันให้หัก คนที่ได้ฝั่งยาวกว่าจะสมหวัง นอกจากนี้เครื่องประดับที่ลักษณะเหมือนวิชโบนจะช่วยเพิ่มสิริมงคลด้วย
4. กระจก
ในสหรัฐอเมริกาเชื่อกันว่าหากทำกระจกแตกจะโชคร้ายไปถึง 7 ปี นอกจากนี้ในประเทศอื่นๆ อาทิ เกาหลีใต้ ก็เชื่อว่า กระจกแตกนั้นเป็นสัญญานเตือนลางร้ายด้วยเช่นกัน คนในสมัยก่อนยังมีความเชื่ออีกว่าร่างกายตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกนั้นคือวิญญาณ หากไปส่องกระจกที่แตกก็เท่ากับว่า วิญญาณแตกสลายไปด้วย
5. แมวขาว
ในประเทศไทยอาจเชื่อว่าแมวดำคือลางร้าย แต่ในทางกลับกันสหรัฐอเมริกาเชื่อว่า หากเห็นแมวขาว ตอนกลางคืนจะโชคร้าย อย่างไรก็ตาม หากเจอแมวขาวในฝันก็จะถือว่าโชคดี นอกจากนี้หากแมวข้าวเข้ามาในบ้านแบ้วไม่ออกไปไหน เชื่อว่าจะเกิดเรื่องดีๆ ในครอบครัว
6. ศุกร์ 13
ความเชื่อว่าเรื่องร้ายๆ จะเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 13 ต่างแพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์ เพราะตรงกับวันที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน หลังเสวยพระกระยาหารมื้อสุดท้ายในคืนก่อนหน้า ร่วมกับอัครสาวกอีก 12 คน จากสถิติพบว่า คนอเมริกันเป็นโรคกลัววันศุกร์ที่ 13 (Paraskevidekatriaphobia) มากถึง 21 ล้านคน นอกจากนี้จากการสำรวจยังพบอีกว่าในปี ค.ศ.1993 มีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในคืนวันศุกร์ที่ 13 มากกว่าวันศุกร์อื่นๆ ถึงร้อยละ 52
หากมองดีๆแล้ว ความเชื่อทำให้เราระวังตัวมากขึ้น และบางความเชื่ออย่างเช่นการจาม ก็ทำให้เรามีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนอื่น ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ความเชื่อจะเป็นสิ่งที่ดีถ้าเรามีสติ แต่หากเชื่อแบบขาดสติก็จะทำให้เรามีแต่ความหวาดกลัว
ที่มา: campus-star