การฟังถือเป็นหนึ่งความสุนทรีของการเสพย์สื่อที่ให้ความเพลิดเพลินกับผู้คนมากมาย ทุกวันนี้โลกของเราหนังสือเสียงดีๆ ให้เลือกสรรมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แม้ว่าหลายเล่มจะต้องแลกมาด้วยการจ่ายเงินจำนวนมากก็ตาม
โชคดี! ที่ยังมีแหล่งหนังสือเสียงฟรีให้เราได้เข้าไปใช้บริการ โดยแหล่งโหลดไฟล์เสียงเหล่านี้จะแบ่งแยกกันไปตามประเภทของเรื่องราว สำหรับคนที่ต้องการนำไปใช้ในงานประเภทต่างๆ ว่าแล้วก็ไปดูกันหน่อยว่ามีเจ้าไหนให้บริการบ้าง
1. Audible
แม้ว่า Audible ซึ่งเป็นบริการจาก Amazon ไม่ได้เป็นเว็บไซต์สำหรับหนังสือเสียงฟรี แต่มีหนังสือเสียงให้บริการฟรี สำหรับทุกคนที่สมัครเป็นสมาชิก (ส่วนนี้อาจต้องเสียเงิน)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะไม่ได้สมัครเพื่อรับข้อมูล แต่ก็ยังมีหนังสือเสียงสนุกๆ ให้ดาวโหลดได้ฟรีด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้หลากหลายเท่ากับที่สมาชิกได้รับบริการ
2. Digital Book
Digital Book เดิมชื่อ Librophile เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ทันสมัยที่สุดในลิสต์ผู้ให้บริการหนังสือเสียงฟรี
อธิบายง่ายๆ คล้ายกับเป็น Netflix สำหรับหนังสือเสียง คุณสามารถค้นหาฐานข้อมูลของหนังสือโดเมนสาธารณะได้จากเว็บไซต์ทั่วอินเทอร์เน็ต รวมถึงหนังสือหลายเล่มในรายการนี้และเพลิดเพลินไปกับแคตตาล็อกหนังสือเสียงและ ebooks ฟรีกว่า 100,000 รายการ
สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นจากการเป็นสมาชิกคือคุณสามารถสร้างชั้นวางหนังสือส่วนบุคคลเพื่ออ่านในภายหลังได้
3. Spotify
เช่นเดียวกับ Audible คือไม่ใช่ทุกไฟล์จะฟรี แต่ก็มีหลายไฟล์เสียงที่ให้บริการสำหรับผู้ที่ไม่ได้สมัครสมาชิก และแม้ว่า Spotify จะมีชื่อเสียงในด้านการให้บริการเพลงมากกว่า แต่ที่นี่ก็เป็นแหล่งหนังสือเสียงเจ๋งๆ เหมือนกัน
4. Overdrive
OverDrive เป็นพาร์นเนอร์เครือข่ายกับห้องสมุดท้องถิ่นทั่วสหรัฐอเมริกาและในต่างประเทศ เพื่อจัดหาหนังสือเล่มใหม่ล่าสุดให้คุณฟัง
เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้ เพียงป้อนหมายเลขบัตรห้องสมุดของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเข้าถึงแคตตาล็อกหนังสือเสียงทั้งหมดในห้องสมุดท้องถิ่นที่ใกล้ที่สุดได้ ข้อเสียเดียวของ Overdrive คือคุณอาจต้องเดินทางไปห้องสมุดท้องถิ่นเพื่อต่ออายุบัตรของตัวเอง
5. Open Culture
Open Culture ได้รวบรวมไฟล์หนังสือเสียงสำหรับทุกคนที่ต้องการ ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่มีการดึงมาจากห้องสมุดและทุกอย่างฟรี! คุณสามารถดาวโหลดได้จากช่องทางอื่นๆ ด้วย เช่น Audible, iTunes, สตรีมฟรี, Spotify, YouTube และบริการสตรีมอื่นๆ บนเว็บไซต์ ไฟล์หนังสือจะถูกจัดเรียงตามชื่อผู้แต่งและคุณจะพบกับวรรณกรรมคลาสสิกจำนวนมากได้ที่นี่
6. StoryNory
หากคุณมีเด็กๆ ในบ้านของคุณหรือเป็นแฟนตัวยงของเทพนิยาย เราขอเสนอ StoryNory แหล่ไฟล์เสียงที่เน้นหนังสือเสียงฟรีสำหรับเด็กๆ รวมถึงหนังสือคลาสสิกบางอย่าง นิทานอีสปและนิทานจากพี่น้องกริมม์
เว็บไซต์นี้เหมาะมากสำหรับการเริ่มฟังภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ เนื่องจากมีเป็วรรณกรรมคลาสสิกที่มีรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับเด็ก และคำศัพท์ที่ไม่ยากให้บริการ
ด้วยช่องทางเหล่านี้ คุณจะสามารถนำไฟล์เสียงเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยล่ะ ใครกำลังมองหาแหล่งฝึกภาษาดีๆ ลองใช้บริการเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ได้นะ :)
ที่มา: rd.com