อิตาลีเป็นประเทศที่น่าสนใจทั้งในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกและปลายทางการศึกษาที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดอย่างเช่นมหาวิทยาลัยโบโลญญา ที่เปิดดำเนินการสอนมาอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลวันที่ก่อตั้งยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าก่อตั้งขึ้นในปี 1088
และสำหรับใครที่สนใจอยากไปเรียนที่เมืองสุดโรแมนติกแห่งนี้ เว็บไซต์ของเราก็มีข้อมูลที่น่าสนใจมาฝากเช่นกัน
1. เลือกหลักสูตรเรียนที่ใช่
ที่อิตาลีมีหลักสูตรเรียนมากมายที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ เช่น
-ปริญญาโทด้าน Industrial Design in Italy
-ปริญญาโทด้าน Visual Arts in Italy
-ปริญญาโทด้าน Communication Sciences in Italy
-ปริญญาโทด้าน Health Sciences in Italy
-ปริญญาโทด้าน Economics in Italy
2. เลือกมหาวิทยาลัยที่ชอบ
นอกจากมีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่อย่างมหาวิทยาลัยโบโลญญาแล้ว ยังมีสถาบันการศึกษาชั้นนำที่เหมาะสำหรับเป็นตัวเลือกในการเรียนต่อ เช่น
-University of Padova
-University of Torino
-Milano Fashion Institute
-POLI.design – Milan
-Università Cattolica del Sacro Cuore
-Ca’ Foscari University of Venice
-European School of Economics
3. เตรียมตัวสมัคร
ก่อนจะสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย นักศึกษาต้องตรวจสอบคุณสมบัติตัวเองว่าเหมาะสำหรับการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในอิตาลีหรือไม่
-ติดต่อมหาวิทยาลัยที่คุณสนใจ และขอการประเมินผลล่วงหน้า
-ทางมหาวิทยาลัยจะให้คำแนะนำกลับไปเกี่ยวกับการมีสิทธิเข้าเรียนต่อ จากนั้นนักศึกษาจะต้องยื่นใบสมัครล่วงหน้าไปยังสถานทูตอิตาลี หรือสถานกงสุลในพื้นที่ที่อาศัยอยู่
-สถานทูตหรือสถานกงสุลอิตาลีจะส่งใบสมัคร และเอกสารของคุณไปยังสถาบันการศึกษาในอิตาลีที่คุณเลือกสมัคร
-สถานทูตหรือสถานกงสุลอิตาลีจะทำการเผยแพร่รายชื่อผู้สมัครที่ได้รับการตอบรับ โดยทั่วไปจะประกาศในช่วงปลายเดือนสิงหาคม
4. ข้อกำหนดด้านภาษา
มหาวิทยาลัยในอิตาลีเปิดสอนหลักสูตรทั้งภาษาอิตาลีและภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตาม หลักสูตรภาษาอังกฤษส่วนใหญ่มักสอนในระดับบัณฑิตศึกษา ปริญญาโท และปริญญาเอก ส่วนการทดสอบภาษาที่ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยในอิตาลี เช่น
ภาษาอิตาลี
-CILS: สามารถสอบได้ในอิตาลีและที่สถาบันวัฒนธรรมอิตาลีทั่วโลก
-CELI: ทำการสอบที่ศูนย์ที่ได้รับการรับรองโดยความร่วมมือกับ University of Perugia
ภาษาอังกฤษ
หากสมัครเรียนหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษนักศึกษาจะต้องแสดงหลักฐานความรู้ภาษาอังกฤษ เช่น
-TOEFL
-TOEIC
-IELTS
-C1 Advanced
5. เอกสารการสมัครที่จำเป็น
-เอกสารแสดงตัวตน รูปถ่ายผู้สมัครหน้าตรง ขนาด 2 นิ้ว
-ใบแสดงผลการเรียน
-แบบฟอร์มใบสมัครของมหาวิทยาลัย
-โปรแกรมการศึกษาโดยละเอียด / คำอธิบายหลักสูตร (ต้องมีจำนวนชั่วโมงของหลักสูตร หรือกิจกรรมการฝึกอบรมที่นักศึกษาได้สำเร็จตามหลักสูตรการศึกษาของคุณ)
-CV
-จดหมายรับรอง
-จดหมายแนะนำตัว
-ผลการทดสอบภาษา (อังกฤษ หรืออิตาลี)
-Portfolio (สำหรับผู้สมัครคณะสถาปัตยกรรม การวางผังเมือง หรือหลักสูตรการออกแบบ)
-ผลคะแนน SAT หรือ ACT
6. ช่วงเวลาปิดรับสมัครของมหาวิทยาลัยสำหรับอิตาลี
ส่วนใหญ่จะปิดรับสมัครช่วงกลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม สามารถติดต่อสถานทูต / สถานกงสุลอิตาลีเพื่อขอรับ Letter of Academic Eligibility and Suitability (จดหมายรับรองจากสถาบันการศึกษา)
ช่วงเวลาการปิดรับสมัครอาจแตกต่างกันในแต่สถาบันการศึกษา ดังนั้น จึงควรตรวจสอบกับทางมหาวิทยาลัยที่คุณสนใจ
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเลือกมหาวิทยาลัยในอิตาลีเป็นปลายทางการศึกษาขั้นต่อไป และอย่าลืมหมั่นตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยที่คุณสนใจบ่อยๆ ว่ามีทุนการสนับสนุนการศึกษาบ้างหรือไม่ เผื่อจะช่วยให้การเรียนต่อต่างประเทศสะดวกสบายขึ้นอีกขั้น
ที่มา: mastersportal