เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา U.S. News & World Report ได้เปิดเผยรายชื่อการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของประเทศ โดยมหาวิทยาลัยที่ครองอยู่ในอันดับ 1 คือ Princeton University ตามมาด้วย Harvard University, Columbia University, Massachusetts Institute of Technology (MIT), University of Chicago และ Yale University follow closely
ส่วนทาง National Center for Education Statistics เผยสถิติว่ามีเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาปริญญาตรี (เรียนแบบเต็มเวลา) ที่จบการศึกษาภายในระยะเวลา 4 ปี และที่จบปริญญาตรีภายใน 6 ปีคิดเป็น 59 เปอร์เซ็นต์
และด้านล่างนี้คืออัตราการสำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา
อันดับ 3 Columbia University (อันดับร่วม)
การลงทะเบียนเรียนในระดับป.ตรีทั้งสิ้น: 6,113
ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียม (2017-2018): $57,208
อัตราการคงอยู่โดยเฉลี่ยของนักศึกษาชั้นปีที่ 1: 99 %
อัตราการสำเร็จการศึกษา: 96%
อันดับ 3 Massachusetts Institute of Technology (อันดับร่วม)
การลงทะเบียนเรียนในระดับป.ตรีทั้งสิ้น: 4,524
ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียม (2017-2018): $49,892
อัตราการคงอยู่โดยเฉลี่ยของนักศึกษาชั้นปีที่ 1: 99%
อัตราการสำเร็จการศึกษา: 94%
อันดับ 3 University of Chicago (อันดับร่วม)
การลงทะเบียนเรียนในระดับป.ตรีทั้งสิ้น: 5,941
ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียม (2017-2018): $54,825
อัตราการคงอยู่โดยเฉลี่ยของนักศึกษาชั้นปีที่ 1: 99%
อัตราการสำเร็จการศึกษา: 93%
อันดับ 3 Yale University (อันดับร่วม)
การลงทะเบียนเรียนในระดับป.ตรีทั้งสิ้น: 5,472
ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียม (2017-2018): $51,400
อัตราการคงอยู่โดยเฉลี่ยของนักศึกษาชั้นปีที่ 1: 99 %
อัตราการสำเร็จการศึกษา: 97%
อันดับ 2 Harvard University
การลงทะเบียนเรียนในระดับป.ตรีทั้งสิ้น: 6,710
ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียม (2017-2018): $48,949
อัตราการคงอยู่โดยเฉลี่ยของนักศึกษาชั้นปีที่ 1: 97%
อัตราการสำเร็จการศึกษา: 96%
อันดับ 1 Princeton University (อันดับร่วม)
การลงทะเบียนเรียนในระดับป.ตรีทั้งสิ้น: 5,400
ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียม (2017-2018): $47,140
อัตราการคงอยู่โดยเฉลี่ยของนักศึกษาชั้นปีที่ 1: 98%
อัตราการสำเร็จการศึกษา: 97%
มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้อัตราการสำเร็จการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาต่ำลงมาก หนึ่งในนั้นคืออุปสรรคทางการเงิน
ซึ่งการพิจารณามหาวิทยาลัยที่มีอัตราการสำเร็จการศึกษาอยู่ในระดับสูง (ในช่วงสี่ปี) เป็นวิธีที่จะทำให้คุณแน่ใจว่าคุณเลือกเรียนในสถาบันที่มีการสนับสนุนทางการเงิน และพร้อมให้การช่วยเหลือนักศึกษาเป็นอย่างดี
ที่มา: cnbc