การบำบัดด้วยสีถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่นักบำบัดและนักจิตอายุรเวทใช้เพื่อรักษาในวงกว้าง เพราะนอกจากจะเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย ประโยชน์ของศิลปะยังทำให้ผู้คนเปิดโลกแห่งจินตนาการและโฟกัสไปที่ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง
แต่จะทำอย่างไรจึงจะสามารถใช้สีบำบัดได้? แค่วาดรูประบายสีหรือเปล่า? หากอยากรู้ ตามมาดูด้านล่างนี้ได้เลย
1. ระบายสีบนลวดลาย
งานอดิเรกที่ฮิตอยู่ช่วงหนึ่งคือการซื้อสมุดลายเส้นสวยๆ มาระบายสี และสิ่งนี้ก็มีประโยชน์มากจริงๆ
การระบายสีบนลวดลายเรขาคณิตต่างๆ ช่วยให้ระดับความเครียดและความวิตกกังวลของคุณลดลงได้ เหตุผลอาจเป็นเพราะ เมื่อเรามุ่งเน้นไปที่งานง่ายๆ สมองก็จะรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้ลดระดับความวิตกกังลงไปโดยอัตโนมัติ
2. เลือกสีอย่างสร้างสรรค์
การระบายสีเป็นเหมือนการออกกำลังกายของสมอง เพราะสมองทั้งสองซีกต้องทำงานอย่างสอดคล้องขณะระบายสี
การเลือกสีอย่างสร้างสรรค์ ช่วยให้คุณจดจ่ออยู่กับงาน ทั้งยังเป็นการจัดระเบียบแนวคิด สร้างความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
3. สร้างศิลปะแบบคิดนอกกรอบ
การระบายสีช่วยให้คุณพัฒนาแนวคิดแบบนอกกรอบได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานสมองทั้งสองซีกพร้อมกัน ทำให้คุณสามารถฝึกสมาธิและจดจ่อกับอะไรได้นานๆ
4. ฝึกสมาธิไปพร้อมกับรูปที่คุณชื่นชอบ
การระบายสีเป็นเหมือนกับการฝึกสมาธิสำหรับสมองพร้อมกับสีสัน เพราะนอกจากจะช่วยคลายเครียดแล้ว ยังช่วยให้กิจวัตรประจำวันของคุณดีขึ้น เช่นการนอนหลับไปจนถึงการปรับปรุงความจำ
5. เลือกสีและรูปที่ระบายในแบบที่เราชอบ
มีการศึกษาที่พบว่าการระบายสีสามารถช่วยบำบัดผู้ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจได้ เพราะสีสามารถสื่อถึงความคิด การเลือกสีเชิงบวก ช่วยสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับจิตใจได้
6. สนุกโดยไร้ขีดจำกัดเรื่องวัย
จริงๆ แล้วการระบายสีไม่ได้มีไว้สำหรับเด็กๆ เพียงอย่างเดียว เพราะแม้แต่ผู้ใหญ่เองก็สามารถเรียนรู้จากการสร้างงานศิลปะนี้ได้ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาที่ค้นพบว่า การสร้างงานศิลปะสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ลงมือทำได้ด้วย
ศิลปะมีประโยชน์มากมายต่อจิตใจ หากคุณเลิกสร้างกรอบจำกัดและสนุกสนานไปกับงานที่ทำ จะช่วยให้เกิดผลเชิงบวกได้มากกว่าที่คิด
ครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกเครียด ไม่สบายใจ คิดอะไรไม่ออก ลองนำสีที่บ้านออกมาสร้างสรรค์งานศิลปะเพื่อบำบัดจิตใจดูสิ รับรองว่าคุณจะค้นพบความสนุกในวัยเด็กที่หวนกลับคืนมาอย่างแน่นอน
ที่มา: brightside