ภาวะโลกร้อน คือ ภาวะที่โลกของเรามีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุเกิดจากก๊าซเรือนกระจกที่มาจากการทำกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ในแต่ละวัน
ภาวะโลกร้อนนี้กำลังส่งผลกระทบต่อโลกเราและระบบนิเวศเป็นอย่างมาก การที่อุณหภูมิสูงขึ้นทำให้น้ำแข็งในขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว และหากเรายังไม่ลดการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ โลกของเราอาจจะมีสภาพแปรปรวนและเกิดภัยพิบัติยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต
วันนี้เราก็มีภาพหายนะที่จะทำนายว่า เมืองใหญ่ๆ ของโลกจะอยู่ในสภาพใด ถ้าเรายังไม่ช่วยกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน
1. เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
อุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้น 2 องศาภายในปี 2100 แต่ถ้าเรายังคงปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิโลกก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 4 องศาเลยทีเดียว
2. เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
หากเรายังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เพิ่มขึ้น ผลอ้างอิงจากการวิจัยของ Climate Central คาดว่าระดับน้ำทะเลอาจจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 11 เมตร แต่อย่างไรก็ตามถ้าเราช่วยกันลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอาจจะลดลงตามไปด้วย
3. กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
Climate Central ได้ประกาศว่า 1,800 พื้นที่พักอาศัยทั่วโลกรวมทั้งเมืองใหญ่ๆ มีแนวโน้มที่จะได้รับความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลในอีก 100 ปีข้างหน้า
4. เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
จากผลการวิจัยของ Climate Central พบว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอกไดออกไซด์มีผลกระทบต่อโลกของเราเป็นเวลานาน ทำให้เราถูกล้อมรอบไว้ด้วยระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเราลดการใช้เชื้อเพลิงลง ก็สามารถตัดผลกระทบร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
5. เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล
นักวิทยาศาสตร์คาดว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องมาจากการละลายน้ำแข็งของขั้วโลก ไม่ใช่เป็นเพียงการเพิ่มระดับน้ำในมหาสมุทรเท่านั้น แต่หลายๆ ทวีปกำลังจมลงเรื่อยๆ
6. เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย
การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อประเทศเล็กๆ และประเทศที่กำลังพัฒนาเป็นอย่างมาก แต่ภายในปี 2100 เมืองต่างๆ ใน 6 ทวีปก็จะได้รับผลกระทบจากการแปรปรวนของสภาพอากาศเช่นกัน
7. เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้
เมืองที่มีประชากรกว่า 800 ล้านคนแห่งนี้อาจได้รับผลกระทบจากอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปัจจุบัน Climate Central รายงานว่า ถ้าอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างหนักลดลง ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นก็ลดลงตามไปด้วย
ที่มา: dailymail