7 ทักษะทางด้านความจำ ที่จะช่วยทำให้คุณฉลาดขึ้นได้อย่างแน่นอน…

ในการเรียนรู้ที่ดีนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็ต้องอาศัยความจำที่ดีด้วย แต่น่าเสียดายที่หลาย ๆ เทคนิคที่เรามักจะใช้กันทั่วไปอย่างการไฮไลต์ หรือพยายามยัดข้อมูลทีละเยอะๆ เข้าหัว ไม่ได้ช่วยให้เกิดความสามารถในการจำระยะยาวเลย

ครั้งนี้ Scholarship.in.th ก็เลยมี 7 วิธีในการ “จำให้ขึ้นใจ” มาฝากจ้า

1. การกู้คืนความจำ

การใช้ “Flash Card” เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ เนื่องจากจะเป็นการบังคับให้เรียกข้อมูลต่างๆ มาจากความทรงจำที่ฝังอยู่ในหัวในฉับพลัน เป็นการกระตุ้นระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับความจำ หรืออาจลองหาวิธีอื่นคล้ายๆ กันก็ได้นะ

2. การเชื่อมโยงข้อมูลใหม่ๆ กับข้อมูลเก่าที่เคยรู้อยู่แล้ว

การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลเก่ากับใหม่จะทำให้จดจำข้อมูลใหม่ได้ดียิ่งขึ้น อาจเป็นการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทั่วไปในชีวิตประจำวันก็ได้ เช่น การถ่ายโอนควานร้อนในคาบฟิสิกส์ อาจยกตัวอย่างด้วย การที่ถือถ้วยกาแฟแล้วรู้สึกถึงความร้อนที่ฝ่ามือก็ได้

3. การเรียนรู้ที่หลากหลาย

ในแต่ละสายวิชาย่อมมีมุมมองต่อสิ่งๆ หนึ่งแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าสามารถเรียนรู้เรื่องนั้นจากทุกมุมมองได้ จะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาหรือเรื่องที่กำลังพยายามจำได้ดียิ่งกว่า

4. การพยายาม “คิดหาคำตอบ” ก่อนที่จะ “หาคำตอบ” ที่แท้จริง

ในการเรียน ถ้าเราได้ผ่านกระบวนการคิดหาคำตอบด้วยตัวเองมาก่อนหน้า เวลาที่มีคนมาสอน หรือชี้แนะแนวทาง จะทำให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น และจดจำได้ดีขึ้น

5. การทบทวนสถานการณ์ต่างๆ

การทบทวนเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะนอกจากจะเป็นการย้ำไอเดีย หรือสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว ยังช่วยให้เห็นข้อพกพร่องว่ามีอะไรขาดตกไปบ้าง รวมถึงเห็นจุดอ่อนที่ยังสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีกด้วย

6. การใช้ “เครื่องช่วยจำ”

เครื่องช่วยจำที่ว่าไม่ใช่เครื่องจักรเทคโนโลยีอะไร แต่เป็นการใช้เทคนิคช่วยจำที่สามารถทำได้ง่ายๆ เช่น การใช้อักษรย่อมาประกอบเป็นคำ หรือวาดภาพเป็นเรื่องราวในหัวก็ได้

7. การทดสอบสิ่งที่รู้ / รู้ไม่จริง / ไม่รู้

ขั้นตอนนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะบางอย่างที่เราคิดว่ารู้ดีแล้ว อาจจะยังไม่รู้อะไรที่ชัดเจนเลยก็ได้ ดังนั้นถ้ามีการทดสอบตัวเอง หรือให้เพื่อนช่วยในการทดสอบความเข้าใจก็จะช่วยชี้จุดที่เรายังพลาดไปได้

การเสริมทักษะทางด้านความจำต้องใช้ความวิริยะพากเพียร บวกกับพลังทางสมอง ปัจจุบันนักศึกษาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในห้องแอร์เพราะอุณภูมินั้นมีผลต่อการเรียนโดยตรง มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดระบุว่า อุณภูมิที่ร้อนขึ้น มีผลต่อความเฉียบคมทางความคิด ในการทดลองนี้มีการบันทึกปัจจัยอื่นๆ นอกจากอุณหภูมิด้วย เช่น ความชื้น ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ และเสียงในห้องนอนของนักศึกษา (ที่มา: www.voathai.com)

คุณภาพของอากาศในห้องแอร์ และความชื้นจึงมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันมาก เช่น ห้องสมุด หรือ co-working space ระบบแอร์บ้าน ที่ดีนั้นต้องมีการหมุนเวียนอากาศที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้คาร์บอนไดออกไซด์มีการสะสมมากเกินไป และสามารถรักษาความชื้นในอากาศที่สมดุล ป้องกันผิวแห้งขาดน้ำ เราไปดูกันว่า ข้อดีของแอร์บ้าน Panasonic ที่ถูกติดตั้งเป็นระบบปรับอากาศมีอะไรบ้าง

– เครื่องปรับอากาศ ที่ช่วยรักษาสมดุลความเย็นไม่ให้เย็นมากเกินไป

– ระบบฟอกอากาศ ช่วยลดฝุ่นพิษ PM 2.5

– เทคโนโลยี nanoe X ช่วยยับยั้งสารก่อโรคภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เชื้อรา แบคทีเรีย

– ระบบระบายอากาศ สร้างสุขภาวะที่ดีให้ทุกคนในบ้าน ลดกลิ่นเหม็นอับ

– พัดลมระบายอากาศ ทำหน้าที่หมุนเวียนอากาศภายในห้องแอร์ ช่วยเพิ่มความชื้นให้อากาศ ป้องกันผิวแห้งขาดน้ำ

คุณภาพของอากาศจึงมีผลต่อการเรียนรู้ของมนุษย์เราโดยตรง เพราะแต่ละวันเราหายใจเอาทั้งอากาสดี และมลภาวะเข้าไปพร้อมกันตลอดเวลา โดยเฉพาะทุกวันนี้ มลภาวะทางอากาศสูงขึ้นด้วยฝุ่นพิษ PM 2.5 การเลือกใช้ ระบบปรับอากาศ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

ที่มา: Business Insider