สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว ScholarShip.in.th วันนี้เราก็ไปเจอกับข่าวคราวเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศกันล่ะจ้า แน่นอนว่าการจะเรียนต่อให้ดีก็ต้องมีการเตรียมตัวที่ดีเช่นกัน เรามาชมกันได้เลย
ถ้าจะให้บอกเป็นลำดับขั้นตอนล่ะก็ การไปเรียนต่อนั้นเพียงแค่มี 7 ขั้นตอนนี้เพื่อนๆ ก็สามารถไปเรียนต่อกันได้แบบสบายใจแล้วล่ะจ้า รับรองไม่มีพลาด อิอิ
1. ฝึก ฝึก และฝึกภาษาอังกฤษเข้าไว้ให้มากๆ
เพราะไม่ว่าจะเป็นการทดสอบทางภาษา ทั้ง TOEFL หรือ IELTS ก็ล้วนแล้วแต่ค่อนข้างที่จะหนักหน่วง ถ้าไม่ขอทุนไปก็สบายหน่อย เพราะในส่วนของภาษาต้องเก่งถ้าจะขอทุน แต่ก็ต้องไปดีดอีกครั้งระหว่างเรียนอยู่ดี หรือว่าถ้าติดต่อผ่านเอเจนซี่ ถ้าเขารู้ภาษาเราไม่ดีแน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธเราแน่ เพราะจะเสียลูกค้า แต่ต้องลำบากในภายหลังล่ะทีนี้ ทางที่ดีที่สุดคือฝึกภาษาไว้เลยตั้งแต่เนิ่นๆ จ้า จะทำอะไรก็สบาย เชื่อเราสิ^^
2. คะแนนทดสอบภาษาอังกฤษนั้นต้องมี
เพราะว่าบางมหาวิทยาลัยก็ได้กำหนดคะแนนภาษาอังกฤษสำหรับแรกเข้า เช่น TOEFL หรือ IELTS ซึ่งในส่วนของ TOEFL จะมีการสอบแบบ 3 แบบด้วยกันเลยล่ะ ใช้แทนกันได้หมดเลยจ้า ต้องดูดีๆ นะจ๊ะว่ามหาวิทยาลัยที่เราจะสมัคร หรือทุนที่จะขอมีเงื่อนไขในส่วนนี้อ่างไร ไปสอบกันให้ถูกล่ะ อิอิ ส่วน TOEIC นั้นจะใช้ในการทำงานต่อต่างประเทศมากกว่านะจ๊ะ คะแนนจะเก็บไว้ใช้ได้ 2 ปี ส่วนมากจัดสอบเดือนละ 2-4 ครั้ง ผลสอบจะออกหลังสอบประมาณ 2 สัปดาห์นะจ๊ะ
3. ถ้าจำเป็นต้องไปสอบวัดระดับภาษาอื่นๆ เพิ่มเติมไว้ด้วย
เช่นถ้าจะไปเรียนต่อที่จีน ญี่ปุ่น เกาหลี นอกจากความสามารถทางภาษาอังกฤษก็ต้องวัดระดับภาษานั้นๆ ไว้ด้วย อย่างน้อยก็งูๆ ปลาๆ ก็ยังดีจะได้สื่อสารเบื้องต้นได้ล่ะเนาะ ยิ่งสมัครทุนหรือมหาลัยมักจะมีกำหนดไว้ว่า ถ้ารู้ภาษาของประเทศนั้นๆ เพิ่มเติมจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษด้วยแน่ะ อย่าลืมชิงความได้เปรียบจุดนี้ไว้นะจ๊ะ
– การสอบวัดระดับภาษาจีน (HSK) จัดสอบปีละ 2 ครั้ง กลางปีและปลายปี สมัครได้ที่ มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง สำนักงานกรุงเทพ
– การสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น (JLPT) จัดสอบปีละ 2 ครั้ง กรกฎาคมและธันวาคม สมัครได้ที่ โรงเรียนสอนภาษาสมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น
– การสอบวัดระดับภาษาเกาหลี (TOPIK) จัดสอบปีละครั้ง ตุลาคม สมัครได้ที่ โรงเรียนนานาชาติเกาหลี
4. เอกสารพร้อมเราทำได้
ในส่วนนี้ต้องดูนะจะว่ามหาวิทยาลัยที่เราสมัคร หรือทุนที่เราขอนั้นต้องการอะไรบ้าง ก็จัดไปให้ครบๆ แน่นอนว่าถ้าเรียนต่างประเทศต้องผ่านการแปลเอกสารพร้อมตราปั้มนะจ๊ะ ดูขอบเขตหมดอายุของเอกสารต่างๆ ด้วยล่ะ ไม่งั้นอาจเงิบได้นะจ๊ะ
5. กรณีเอกสารต้องแปลภาษาอังกฤษ
ควรนำไปแปลตามร้านรับแปลเอกสารต่างๆ หาได้ทั่วไปตามริมถนน ใช้เวลา 1-2 วันเท่านั้น เอกสารที่ควรนำไปแปลคือ เอกสารที่ต้องเน้นความแม่นยำและถูกต้อง คือเอกสารทางราชการนั่นเอง มื่อแปลเสร็จเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษมาแล้ว ต้องมีการรับรองว่าเอกสารที่แปลนั้นถูกต้อง โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ กรมการกงสุล โดยสามารถยื่นคำร้องและส่งให้ตรวจสอบ พยายามอย่าแปลผิดนะจ๊ะ ถ้าถูกตีกลับมาล่ะก็จะเสียเวลาไปอีก
6. คิดดีๆ ว่าอยากเรียนที่ไหนกันแน่
หากเป็นทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัย เราคงไม่ต้องคิดมาก เพราะหากได้ทุนมา ก็ต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนั้นอยู่แล้ว แต่สำหรับทุนรัฐบาลของประเทศต่างๆ เช่น ทุนรัฐบาลเกาหลี ทุนรัฐบาลจีน ทุนองค์กรต่างๆ เราสามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่จะเรียนเองได้!!? เอาล่ะสิ เรียนไหนดีล่ะวะ -*- ลองหาเหล่ามหาวิทยาลัยจาก Ranking ต่างๆ ดูนะจ๊ะ ทั้งภายใน ภายนอกประเทศ เฉพาะพื้นที่ เค้าจะแยกส่วนให้อย่างดี ลองศึกษาหามหาวิทยาลัยที่ชอบ สาขาที่ใช่ดูนะจ๊ะ อิอิ
7. ลองดูซิว่ามหาวิทยาลัยที่เราอยากเรียนน่ะ มีทุนอะไรช่วยเหลือเราหรือเปล่า
ถ้าสมัครทุนตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องกังวลจุดนี้ หรือมีทุนทรัพย์ที่เพียงพอ แต่แน่ล่ะถ้ามีทุนเราจะไม่เอาเหรอ ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ทุนเรียนต่อนอกก็มีเยอะแยะมากมาย บางทุนเราอาจจะไม่รู้จัก แถมบางทุนให้แล้วคนยังสมัครไม่ครบอีกต่างหาก ลองติดตามข่าวสารดูกันได้ทุกๆ วันนะจ๊ะ โดยเฉพาะเว็บไซต์ของเราอัพเดททุนการศึกษาให้เกือบทุกๆ วัน รวดเร็วมากๆ เลยล่ะจ้า อย่าลืมมาชมกันนะจ๊ะ อิอิ
และนี่คือทั้ง 7 วิธีการเตรียมตัวเรียนต่อเมืองนอก พร้อมการขอทุนการศึกษา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อเพื่อนๆ ที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศกันนะจ๊ะ ^^