ในโลกความเป็นจริง เราหวังจะเจอคนที่ดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูลกับเราตลอดเวลา แต่ว่าโลกนี้ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่มีความรู้สึกที่ดีในใจเราเหมือนกัน เพราะว่าเราอยู่ในสังคมซึ่งต่างคนต่างมีความหลากหลาย
ซึ่งในส่วนของคนฉลาดส่วนใหญ่นั้น รู้ดีในข้อนี้ และพวกเขามีวิธีรับมือกับคนที่ไม่ชอบยังไง มาดูกัน
ยอมรับว่าพวกเขาไม่ได้ชอบไปหมดทุกคน
บางครั้งเราก็ติดความคิดว่า เราเป็นคนดี เราต้องชอบทุกคนที่ได้มีปฏิสัมพันธ์ด้วย แต่แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่เราต้องเจอคนที่แตกต่างจากเราหรือตรงข้ามเรา คนฉลาดรู้ดีและรู้ว่าความขัดแย้งนั้นมาจากความแตกต่างทางค่านิยม ความแตกต่างนี้เองที่กลายเป็นการตัดสิน เมื่อเรายอมว่าทุกคนก็ไม่ได้ชอบเราจากค่านิยมที่แตกต่าง มันจะทำให้ตระหนักโดยปราศจากอารมณ์ และจะยังทำให้เกิดการยอมรับที่ดีขึ้นด้วย
อดทน(แต่ไม่เพิกเฉยหรือละเลย)สิ่งที่ไม่ชอบ
คุณอาจนอบน้อมกับคำวิจารณ์ของเขา กัดฟันกับการเยาะเย้ยของเธอ หรือส่ายหน้ากับสิ่งที่เขาก่อกวนเธอตลอดเวลา แต่ความรู้สึกไม่รักใคร่ก็อาจไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด ซัตตั้นได้กล่าวว่า “จากมุมมองด้านประสิทธิภาพ การชอบคนที่เราต้องข้องเกี่ยวมากกว่าเกินไปเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าการชอบเขาน้อยเกินไปอีก คุณต้องมีใครคนที่มองต่างและพร้อมจะแย้งกับคุณ เพราะเขาจะเป็นคนที่ทำให้เราหยุดทำอะไรโง่ๆ” อาจจะไม่ง่ายที่ต้องเจออะไรแบบนี้ ซึ่งอาจต้องเจอการท้าทายหรือยั่วยุตลอดเวลา แต่ว่ามันนำมาซึ่งงมุมมองใหม่ๆและความสำเร็จ และอย่าลืมว่าเราไม่ได้เพอร์เฟ็ค มีหลายคนต้องทนกับเราเหมือนกัน
ปฏิบัติกับเหล่าคนที่ไม่ชอบด้วยความสุภาพ
ไม่ว่าคุณจะรุ้สึกกับใครซะคนอย่างไร มันจะปรับตัวและสะท้อนไปสู่ทัศนคติและพฤติกรรมของคุณ ถ้าคุณหยาบคายใส่เขา เขาก็จะโยนทิ้งมารยาทุกอย่างและหยาบคายกับคุณเหมือนกัน ดังนั้นคุณจึงมีหน้าที่ในการคงความแฟร์ ยุติธรรม และเยือกเย็น
“การฝึกฝนทำหน้าตายอย่างมีชั้นเชิงเป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องก้าวข้ามมันอย่างมืออาชีพและด้านบวก” กล่าวโดย เบน แดทเนอร์นักจิตวิทยาองค์กรและผู้เขียนหนังสือ The Blame Game วิธีนี้จะทำให้คุณไม่โดนดึงไปอยู่ระดับเดียวกับเขาหรือถูกดูดให้แสดงพฤติกรรมเหมือนเพวกเขา
คอยเช็คความคาดหวังของตัวเอง
“ไม่ปกติหรอกที่คนเราจะมีความคาดหวังเกินจริงเกี่ยวกับคนอื่น เราอาจหวังให้คนอื่นทำเหมือนที่เราคิด หรือพูดสิ่งที่เราจะพูดในสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งเกินจริง “มนุษย์มีลักษณะนิสัยฝังลึกที่จะตัดสินวิธีการตอบสนองของตัวเอง การคาดหวังให้คนอื่นทำเหมือนที่เราจะทำ คือการทำให้ตัวเองผิดหวังและไม่พอใจ” Alan A. Cavaiola, PhD กล่าวไว้
ถ้ามีคนที่ทำให้คุณคาดหวังตลอดเวลา ปรับความคาดหวังให้เหมาะสมซะ วิธีนี้จะช่วยให้เรามีการเตรียมใจและไม่ประหลาดใจกับพฤติกรรมคนอื่น คนฉลาดมักไม่ประหลาดใจกับพฤติกรรมของคนที่เขาไม่ชอบ
มองเข้าไปภายในและโฟกัสตัวเอง
ไม่ว่าคุณจะพยายามทำอะไรอยู่ ก็มักจะมีบางคนที่คอยกวนใจเราอยู่เสมอ สำคัญมากที่จะเรียนรู้วิธีจัดการความไม่พอใจของคุณเมื่อต้องจัดการกับใครที่ทำให้คุณหงุดหงิด แทนที่จะคิดว่าเขาเป็นคนน่ารำคาญยังไง ให้มาโฟกัสว่าทำไม่เราถึงตอบสนองไปแบบนั้น บางครั้งเราก็ไม่ชอบคนอื่นบ่อยพอๆกับไม่ชอบตัวเอง ยิ่งจี้จุดลงไปก็จะยิ่งทำให้อารมณ์เราซับซ้อนขึ้น คุณอาจจะคาดเดา ผ่อนปรน หรือเปลี่ยนแปลงการตอบสนองของคุณดีกว่าที่จะไปขอให้ใครซักคนเปลี่ยนแปลงเป็นอีกคน
หยุดแล้วหายใจเข้าลึกๆ
บางนิสัยก็มักจะทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดเสมอ อาจจะเป็นเพื่อนที่ทำงานช้ากว่ากำหนดตลอดหรือคนที่ชอบเล่นมุขฝืดๆ ลองดูว่าอะไรทำให้คุณหงุดหงิดและใครที่ทำมัน เราจะได้เตรียมพร้อมอีกครั้งถ้ามันเกิดอีก ถ้าคุณสามารถหยุดและยั้งแรงอัดอะดรีนารีนก่อนถึงสมองได้ คุณก็จะมีบทสนทนาและกว่าผ่านการตัดสินนั้นได้ การหายใจลึกๆและก้าวถอยหลังใหญ่ๆซักก้าวจะช่วยให้คุณใจเย็นและไม่กระทำเกินเหตุ และยังทำให้คุณเปิดจิตใจให้กว้างขึ้นด้วย
พูดความต้องการของตัวเอง
ถ้ามีใครทำให้คุณรำคาญหลายต่อหลายครั้ง จงบอกเขาอย่างใจเย็นว่ามารยาททางพฤติกรรมหรือการสื่อสารของเขาเป็นปัญหาต่อคุณ หลีกเลี่ยงการกล่าวหาแล้วลองสูตรคำว่า “ตอนที่คุณ…..ผมรู้สึก” ตัวอย่างเช่น “ตอนคุณพูดขัดผมตอนประชุม ผมรู้สึกว่าคุณไม่เห็นค่าผลงานของผม” แล้วก็รอการตอบสนองของเขา คุณอาจพบว่าคนอื่นไม่ได้รู้ตัวว่าคุณยังพูดไม่จบ หรือเพื่อนร่วมงานคุณรู้สึกตื่นเต้นมากกับไอเดียจึงทำให้เธอรีบพูดถึงมันอย่างกระตือรือร้น
เว้นที่ว่างระหว่างกัน
ถ้าทั้งหมดที่ว่ามาล้มเหลว คนฉลาดจะทิ้งที่ว่างระหว่างตัวเองกับคนที่ไม่ชอบ หาข้ออ้างให้ตัวเองแล้วอยู่บนทางตัวเอง ถ้าในที่ทำงาน ย้ายไปอีกห้องหรือนั่งอีกมุมนึงของโต๊ะประชุม ด้วยระยะห่างเล็กน้อย มุมมอง หรือความรู้สึกร่วม คุณอาจสามารถกลับมาปฏิสัมพันธ์กับทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบอย่างไร้กังวล
แน่นอนที่สุดว่า ทุกอย่างจะง่ายขึ้นใช่ไหมครับที่จะให้คนที่เราไม่ชอบไปไกลๆ แต่เราก็รู้ว่าชีวิตจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ
Source: Lifehack