สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ใครที่่กำลังเตรียมตัวสอบ หรือทำงานเกี่ยวกับการแปลเอกสารภาษาอังกฤษวันนี้เรามีเรื่องที่น่ารู้มาฝากกันค่ะ ในส่วนของแกรมม่า Active and Passive voice นั่นเอง ซึ่งไม่ใช่ว่าคำศัพท์ง่ายๆแล้วเราจะแปลออกนะคะ เพราะนี่คือความซับซ้อนของการใช้เท้นส์ที่ข้อสอบมักเอาไปหลอกเราในพาร์ทของ error นั่นเอง รับรองว่าถ้าเพื่อนๆทำความเข้าใจได้เร็ว ก็จะเก่งขึ้นเลยล่ะ
Active and Passive voice
ในภาษาอังกฤษ รูปประโยคที่ทำเอาคนเรียนมึนเอามากๆเห็นจะเป็น ประโยค passive voice เพราะในภาษาไทยมันไม่มีโครงสร้างประโยคแบบนี้ ในภาษาอังกฤษจะมีโครงสร้างประโยค 2 รูปแบบด้วยกันคือ
1. Active voice
คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยา ซึ่งก็คือประโยคที่เราถูกสอนกันมาตั้งแต่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ เช่น
Johan is drinking coffee.
โจฮันกำลังดื่มกาแฟ (โจฮัน เป็นผู้กระทำกริยา ดื่ม )
Jack and Thomas always go to school together.
แจ๊คและโธมัสไปโรงเรียนด้วยกันเสมอ (แจ๊คกับโธมัส ซึ่งเป็นประธานของประโยคเป็นผู้กระทำกริยา)
2. Passive voice
คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ ซึ่งในภาษาไทยเราไม่เคยพูดว่า ฉันถูกบอก ฉันถูกถาม บ้านถูกกวาด นี่คือความยากของ passive voice ที่ทำให้เราสับสน ตัวอย่างเช่น
My room was cleaned by my mom.
ห้องของฉันถูกทำความสะอาดโดยแม่ หรือ ถ้าแปลในความหมายที่เป็นธรรมชาติคือ แม่ทำความสะอาดห้องของฉัน
The ceremony was held by Ministry of Commerce.
พิธีจัดขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์ (ประธาน the ceremony ถูกกระทำ)
ประโยคแบบ passive voice จะสลับเอากรรมขึ้นมาเป็นประธานของประโยค เพื่อบอกว่าสิ่งนี้ถูกกระทำ
ทำไมต้องใช้ passive voice?
เหตุผลที่ใช้ passive voice ประการแรกเลยคือต้องการเน้นประธานที่ถูกกระทำ แต่ไม่ต้องการเน้นผู้กระทำ อีกเหตุผลหนึ่งคือไม่คนที่กระทำอย่างแน่ชัดว่าใครทำ จึงต้องเอากรรมมาเป็นประธาน
Passive voice นั้นมีได้ทุก tense ครบทั้ง 12 tense เลย แต่รูปร่างหน้าตาของโครงสร้าง passive voice ในแต่ละ tense จะแตกต่างกันออกไป แต่โครงสร้างหลักๆ ของ passive voice คือ
S + Verb to be + V3 (by…)
วิธีการเปลี่ยนประโยคจาก active voice เป็น passive voice มีดังนี้
1. ประโยคที่มีกรรมตัวเดียว
เอากรรม ย้าย มาเป็นประธาน
เลือกใช้ Verb to be ให้ถูกต้อง
กริยาแท้ให้เปลี่ยนเป็น V3
เอาประธาน หรือผู้กระทำไปไว้หลัง by (กรณีที่จะใส่ผู้กระทำ) เช่น
Active: A snake did not bite her.
Passive: She was not bitten by a snake.
2. ประโยคที่มีกรรม 2 ตัว
กรรมตรง (Direct Object) = สิ่งของ และ
กรรมรอง (Indirect Object) = คน
เมื่อมี กรรม 2 ตัว เวลาเปลี่ยนเป็น passive voice นิยมเอา “คน” เป็นประธาน แต่ถ้าเอา “สิ่งของ” เป็นประธานก็ได้ แต่ต้องใส่บุพบท to หน้า “คน” เช่น
Active: Dome gives me a flower.
Passive: I am given a flower by Dome. หรือ A flower is given to me by Dome.
ประโยค Passive voice มีครบทั้ง 12 tense ซึ่งแต่ละ tense ก็จะมีรูปร่างหน้าตาโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไป โดยมีการปรับจาก โครงสร้างหลักของ passive voice คือ S + Verb to be + V3
โครงสร้าง passive voice ในแต่ละ tense มีดังนี้ค่ะ
1. Present simple tense
Active : S + V1
Passive : S + is / am / are + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah cooks dinner.
Passive : Dinner is cooked by Sarah.
2. Present continuous tense
Active : S + V. to be + Ving
Passive : S + is / am / are + being + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah is cooking dinner.
Passive : Dinner is being cooked by Sarah.
3. Present perfect tense
Active : S + have / has + V3
Passive : S + have / has + been + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah has cooked dinner.
Passive : Dinner has been cooked by Sarah.
4. Present perfect continuous tense
Active : S + have / has + been + Ving
Passive : S + have / has + been + being + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah has been cooking dinner.
Passive : Dinner has been being cooked by Sarah.
5. Past simple tense
Active : S + V2
Passive : S + was / were + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah cooked dinner.
Passive : Dinner was cooked by Sarah.
6. Past continuous tense
Active : S + was / were + Ving
Passive : S + was / were + being + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah was cooking dinner.
Passive : Dinner was being cooked by Sarah.
7. Past perfect tense
Active : S + had + V3
Passive : S + had + been + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah had cooked dinner.
Passive : Dinner had been cooked by Sarah.
8. Past perfect continuous tense
Active : S + had + been + Ving
Passive : S + had + been + being + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah had been cooking dinner.
Passive : Dinner had been being cooked by Sarah.
9. Future simple tense
Active : S + will + V1
Passive : S + will + be + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah will cook dinner.
Passive : Dinner will be cooked by Sarah.
10. Future continuous tense
Active : S + will + be + Ving
Passive : S + will + be + being + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah will be cooking dinner.
Passive : Dinner will be being cooked by Sarah.
11. Future perfect tense
Active : S + will + have + V3
Passive : S + will + have been + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah will have cooked dinner.
Passive : Dinner will have been cooked by Sarah.
12. Future perfect continuous tense
Active : S + will have + been + Ving
Passive : S + will have + been + being + V3
ตัวอย่างเช่น
Active : Sarah will have been cooking dinner.
Passive : Dinner will have been being cooked by Sarah.
ในประโยคนี้ I have warned you. กับ I have been warned. นั้นมีความหมายต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้โครงสร้างมันจะดูเกือบเหมือนกัน ประโยคแรกเป็นโครงสร้าง active voice ของ present perfect tense แปลว่า “ฉันเตือนคุณแล้ว” แต่ประโยคที่สองเป็นโครงสร้าง passive voice ของ present perfect tense เช่นเดียวกัน แปลว่า “ฉันถูกเตือน” ซึ่งถ้าเราแยกโครงสร้างระหว่าง active และ passive voice ไม่ออกจะทำให้เราแปลความหมายผิดเพี้ยนไปได้
source: pasaangkit