หากสามารถเรียนรู้ทุกบทเรียนได้ นั่นคือ 100% ของสิ่งที่คุณควรได้ แต่หากได้รู้อะไรที่มากกว่านั้น ถือว่าเป็นกำไร
พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นมักจะเล่าถึงสิ่งที่ได้พบเจอในโลกออนไลน์ให้กับลูกๆ ของเขาฟัง เกี่ยวกับคุณครูที่เข้มงวด เหตุการณ์ที่เลวร้าย และอื่นๆ เช่น คุณครูสอนเด็กๆ ว่า การหมุนของโลกทำให้เกิดเงา
พกเขาคิดว่าแหล่งที่มาของตรรกกะที่บิดเบี้ยวนี้ มาจากคุณครูที่ใจแคบ หรือระบบการให้คะแนนที่บังคับให้เด็กๆ ต้องตอบคำถามตามที่สอนในห้องเรียนเท่านั้น ซึ่งมันไม่ได้ทำให้เกิดการเรียนรู้แบบอิสระ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย
ทว่า เรื่องราวของลูกชายผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า @TBRkaori จะทำให้เรื่องนี้เปลี่ยนไป เพราะแทนที่จะขจัดความอยากรู้ของเด็กน้อย คุณครูกลับให้รางวัลเขา
รูปภาพของการทดสอบตัวอักษรคันจิอันล่าสุด ของลูกชายคุณ @TBRkaori เมื่อเร็วๆ นี้
.
การเรียนตัวอักษรของประเทศญี่ปุ่นมีอยู่ 3 รูปแบบ นั่นคือฮิรางานะ คาตาคานะ และคันจิ(ตัวอักษรจีน) ในขณะที่ตัวฮิรางานะ และคาตาคานะมีรวมกันเพียงประมาณ 50 ตัว คันจิกลับมีความซับซ้อนมากกว่านั้น และมีตัวอักษรมากกว่า 1,800 ตัวเลยทีเดียว
เด็กๆ สามารถเขียนตัวคานะได้อย่างสวยงามและรวดเร็ว แต่กับคันจิต้องใช้เวลามากกว่า ดังนั้น การทดสอบภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนจึงมักมีประโยคสั้นๆ หรือวลีที่เขียนโดยใช้คานะ ซึ่งบางส่วนจะเว้นไว้ให้เติมคำคันจิ เป็นแบบทดสอบ
ตัวอย่าง : ประโยคนี้แปลว่า “ฉันอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น” คำที่ขีดเส้นใต้คืออักษรคานะ และคำตอบคือการใช้คันจิที่ถูกต้อง
กลับมาที่เรื่องราวของลูกชายคุณ @TBRkaori คุณครูคนนี้ได้เปิดประตูการเรีนรู้ของเด็กๆ ให้กว้างขึ้นอีกนิด ด้วยการเพิ่มคะแนนพิเศษ สำหรับคนที่รู้คันจิมากกว่าที่สอนในชั้นเรียน
นั้นทำให้เด็กๆ ได้คะแนนสูงกว่า 100% ในการทดสอบ อย่างลูกชายของคุณ @TBRkaori เองได้ถึง 103 คะแนน ส่วนที่หนึ่งของชั้นปีได้คะแนนสูงสุด 112 คะแนน!!
สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กๆ มีกำลังใจที่จะเรียน และยังทำให้พวกเขายิ่งต้องการเรียนรู้นอกตำราเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
@TBRkaori กล่าวว่า ลูกชายของเธอตอนนี้อยู่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งไม่ได้ไปเรียนพิเศษที่ไหนนอกจากไปโรงเรียนปกติ ตัวเธอเองก็ไม่ได้กดดันลูกเพื่อให้เขาพัฒนาไปไกลกว่าหลักสูตรที่สอนอยู่ในขณะนี้ เพียงแต่ลูกชายของเธอชอบอ่านหนังสือ และการเรียนแบบนี้ก็ทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรมากกว่าในหนังสือเรียน
สรุปก็คือ หลังจากที่ได้ยินทัศนคติของคุณครูในแง่ลบจากโลกออนไลน์มาหลายครั้ง เมื่อมาเจอวิธีการสอนแบบนี้ คุณแม่ @TBRkaori จึงรู้สึกประทับใจมาก และเเบ่งปันเรื่องราวต่อไปในโลกออนไลน์
ซึ่งนับว่าการสอนด้วยวิธีนี้ เป็นการกระตุ้นให้เด็กใช้ความอยากรู้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง และจะส่งผลเชิงบวกกับพวกเขาไปตลอดชีวิต
ที่มา: soranews24