การออกกำลังกายเพียงไม่นานในแต่ละวัน สามารถช่วยให้ร่างกายของคุณแข็งแรงได้มากกว่าที่เคย และหากคุณออกกำลังกายได้ถูกเวลา มีแนวโน้มว่าคุณจะได้รับประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้น
เมื่อพูดถึงการออกกำลังกาย สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญก็คือ คุณควรออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน? และนานเท่าไหร่? หรือ ควรทานอะไรก่อนและหลังออกกำลังกาย? แต่น้อยคนนั้นที่จะนึกถึง “ช่วงเวลาที่เหมาะจะออกกำลังกาย”
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไหนๆ ก็ต้องออกกำลังกายให้เหนื่อยและเหงื่อท่วมตัวเเล้ว มาดูกันดีกว่าว่าช่วงเวลาไหนถึงเรียกว่าดีที่สุดในการออกกำลังกาย?
เวลาที่ดีที่สุดในการออกกำลังกาย?
จากการทดลองและศึกษา นักวิทยาศาสตร์พบว่าการออกกำลังกายในตอนเช้าคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด
เนื่องจากตอนเช้ามีการเผาผลาญแคลอรี่ที่ดี นักวิทยาศาสตร์การกีฬาจึงแนะนำให้นักกีฬาตื่นมาฟิตร่างกายตอนเช้า เพื่อให้อัตราการเผาผลาญแคลอรี่ดีขึ้น ทั้งยังช่วยในเรื่องของการไหลเวียนของเลือดและการเพิ่มกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย รวมถึงการกระตุ้นสมองที่น่าทึ่ง และเพิ่มสารสื่อประสาท
ในขณะที่การออกกำลังกายในช่วงบ่ายหรือเย็นนั้นมีอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ที่ต่ำกว่า แต่เนื่องจากช่วงกลางคืนร่างกายของคุณจะเตรียมพร้อมสำหรับการพักผ่อน ดังนั้นการเผาผลาญเหล่านั้นจะค่อยๆ ลดลงตามไปด้วย
หนึ่งในเหตุผลที่การออกกำลังกายในช่วงบ่ายหรือกลางคืนได้ผลไม่เท่ากับในตอนเช้า
การศึกษาหนึ่งในวารสารสรีรวิทยาพบว่าการออกกำลังกายในตอนกลางคืนจะช่วยให้ร่างกายของคุณตื่นตัวและทำให้นาฬิกามนุษย์นั้นแปรปรวน ซึ่งจะทำให้ความง่วงที่ควรมีเมื่อใกล้ถึงเวลานอนหายไป ทว่า งานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่า ปัจจุบันการออกกำลังกายตอนกลางคืนอาจไม่ส่งผลต่อการนอนหลับในคนหลายกลุ่ม
การออกกำลังกายให้ได้ผลดีที่สุด ต้องควบคู่ไปกับการพักผ่อนที่เพียงพอ
แม้ว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและหนักหน่วงจะช่วยให้หลายคนรู้สึกดีกับร่างกาย แต่นั่นเป็นเพียงครึ่งเดียวของความสำเร็จ
ร่างกายของคนเรานั้นจะเรียนรู้กิจวัตรประจำวัน และสร้างปฏิกิริยาที่สอดค้าง เช่นว่า หากคุณออกกำลังกายตอน 5 โมง และนอนหลับตอน 2 ทุ่ม เมื่อถึงเวลา ร่างกายของคุณจะปรับตัวเพื่อเตรียมพร้อมก่อนออกกำลังกาย และทำให้ง่วงเมื่อใกล้ถึงเวลาเข้านอน
ดังนั้น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ร่างกายจดจำสิ่งเหล่านั้น และเสริมสร้างกล้ามเนื้อรวมถึงความแข้งแรงอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่จะทำให้มันได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ก็คือ การพักผ่อนที่เพียงพอควบคู่กันไป เช่น หากคุณออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อฝึกฝนกล้ามเนื้อ คุณต้องให้เวลาพักอย่างน้อย 48 ชั่วโมงเพื่อคลายความอ่อนล้า
ทั้งหมดนี้ เป็นหนึ่งในรายงานวิจัยที่จะทำให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับการออกกำลังกายให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ที่สุดแล้ว การออกกำลังกายไม่ได้นำมาเพียงซึ่งรูปร่างร่างที่สวยงาม แต่ยังมาพร้อมกับความแข็งแรงในระยะยาวอีกด้วย
ที่มา: rd.com