พึ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ย ว่าเหล่าแมงดาทะเล จะเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติขนาดนี้ และวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับสัตว์ชนิดนี้กัน
บรรพบุรุษของ “แมงดาทะเล” พบในประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของยุคพาลีโอโซอิก ยุคที่ไดโนเสาร์ยังไม่ใช่ตัวละครเอก ยุคที่ปลาเพิ่งถือกำเนิด พร้อมๆกับเวลาที่ผ่านไป สัตว์หลายชนิดถือกำเนิดแล้วก็สูญพันธุ์ มีเพียงแค่แมงดาทะเลที่ถึงแม้เวลาผ่านไปกว่า 400 ล้านปีก็ยังคงลักษณะเดิมไว้ได้ จนถูกเรียกว่า ฟอสซิลที่มีชีวิต!!!
และที่แมงดาทะเลมีเลือดเป็นสีน้ำเงิน (hemocyanin) เนื่องจากมีทองแดงผสมอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งถูกนำมาใช้ประโยชน์ในวงการแพทย์ โดยการใช้เลือดแมงดาทะเลไปสกัดเป็นสารที่เรียกว่า Limulus amoebocyte lysate (LAL) ในการตรวจหาเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายที่อาจจะปนเปื้อนในวัคซีน หรือในอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ
ซึ่งหากใช้เลือดแมงดาทะเล หรือตัวทำปฎิกิริยานี้ ฉีดเข้าไป แล้วสารเหล่านั้นมีการเปลี่ยนสี หรือแข็งตัว ก็แปลว่า มีไวรัส เลือดของแมงดาจึงมีความสำคัญมาก เพราะมีคุณสมบัตินี้ มันก็เลยถูกจับมาใช้ในวงการทางการแพทย์ เพื่อทดลอง และในปัจจุบันพบว่ามีการนำไปผสมลงในวัคซีนเพื่อนำไปสู่กระบวนการการให้วัคซีนแก่ผู้ป่วย
ในครั้งที่มนุษย์ยังไม่รู้ถึงประโยชน์ทางการแพทย์ของแมงดาทะเล มันก็จะถูกจับมาเพื่อนึ่งให้สุกแล้วบดเป็นผง เพื่อเอาไปทำปุ๋ยหรือไม่ก็อาหารสัตว์ ทำให้ในปีหนึ่งๆมีแมงดาทะเลเสียชีวิตเป็นจำนวนมากแบบไร้ประโยชน์
ตอนนี้เมื่อมนุษย์เราได้ค้นพบถึงประโยชน์ของเลือดแมงดาแล้ว ชาวประมงจะใช้เรือประมงขนาดใหญ่ออกจับแมงดาทะเลในฤดูวางไข่ แล้วส่งมันไปที่ห้องปฏิบัติการ โดยเหล่าแมงดาทะเลถูกจับมัดติดไว้กับชั้นวางเพื่อรีดเลือด
พนักงานจะใช้หลอดแทงเข้าไปที่หัวใจของแมงดาทะเล จะมีเลือดไหลออกมาปริมาณ 30% ขั้นตอนการรีดเลือดใช้เวลา 24 – 72 ชั่วโมง หลังจากนั้นประมาณหนึ่งสัปดาห์เลือดของแมงดาจะฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิม การรีดเลือดเป็นเหตุให้แมงดาเสียชีวิตประมาณ 10 – 30% เพราะว่าการที่มนุษย์จับแมงดาที่ละจำนวนมากๆขึ้นฝั่งมาเพื่อไข่แมงดาลดน้อยลงเรื่อยๆ
หลังจากผ่านขั้นตอนการรีดเลือดแมงดาจะอยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น แมงดาเพศเมียที่โดนรีดเลือดจะมีโอกาสให้กำเนิดลูกหลานในปริมาณที่ลดต่ำลงอย่างมาก นับได้ว่าเป็นขั้นตอนที่โหดร้ายมากเลยทีเดียว
แมงดาทะเล
.
.
ที่มา: Patjaa