สำหรับใครที่กำลังเริ่มเรียนภาษาอังกฤษในเบื้องต้น ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าในภาษาอังกฤษนั้นมีคำหลากหลายคำที่น่าสับสนงุนงง อาจสร้างความเข้าใจผิดๆ ในการใช้ได้
วันนี้เราจึงมีคู่คำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร ‘D’ มากฝากกัน! ทั้งคำ adjective, adverb, verb และ noun ถึงเวลาต้องหายปวดหัวและใช้ให้ถูกต้องสักที :D
#1 defective, deficient
defective = มีข้อบกพร่อง (adj.)
ใช้เพื่อระบุข้อบกพร่องหรือความเสียหาย เช่น “Your watch is defective. You should take it back to the shop and get a refund.”
deficient = ขาดแคลน (adj.)
ใช้เพื่อระบุการขาดแคลนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่จำเป็นหรือสำคัญ เช่น “Unfortunately, many students exist on a nutritionally deficient diet.”
#2 deny, refute
deny = ปฏิเสธ (verb)
ใช้เพื่อระบุว่ามีบางอย่างไม่จริง เช่น “Ambrogio and Selene denied that they were vampires.”
refute = พิสูจน์ว่าไม่จริง (verb)
เพื่อพิสูจน์ว่าข้อความนั้นเป็นเท็จ เช่น “They were able to refute the charge of murder as they had been performing at the annual policemen’s ball at the time of the alleged vampire attack.”
#3 desert, dessert
desert = ทะเลทราย (noun)
พื้นที่ที่ต้นไม้น้อยและไม่สามารถเติบโตได้เนื่องจากไม่มีฝน เช่น “The Sahara Desert covers an area of about 3.5 million square miles.”
dessert = ของหวาน (คำนาม)
ของหวาน เช่น พาย ไอศกรีม เค้ก หรืออื่นๆ ที่ให้บริการในตอนท้ายของมื้ออาหาร เช่น “I love icecream with chocolate sauce, icecream with fruit, icecream with cake; in fact, I love any dessert which has icecream!”
#4 disinterested, uninterested
disinterested = ไม่สนใจ / เมินเฉย (adj.)
อธิบายบุคคลที่ไม่สนใจ ยังไม่ได้รับแรงจูงใจหรือได้รับอิทธิพลจากความเห็นแก่ตัวหรือผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น “It is a growing concern that so many court judges hold strong political views which may affect their sentencing. All judges should be disinterested in every case in their courtroom.”
uninterested = เบื่อหน่าย / ซึ่งไม่สนใจ (adj.)
ไม่สนใจเรื่องราวภายนอก ไม่อยากรู้เรื่องราวที่ไม่ได้สนใจ เช่น “My husband enjoys watching football, cricket, and golf on television, and would love me to join him but I am totally uninterested.”
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษทุกคน :) อยากได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็คอมเมนต์ทิ้งไว้ได้เลย ^^’
ที่มา: marysenglishblog