การสอนถือเป็นเพียงหนึ่งงานเล็กน้อยของอาชีพ “ครู” ในโรงเรียนรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น
นักศึกษาญี่ปุ่นที่จบใหม่จากมหาวิทยาลัยและได้รับใบอนุญาตให้สอนได้ มักถูกคาดหวังให้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง และกำหนดชะตาของเด็กรุ่นใหม่ ทั้งยังต้องมีแรงบันดาลใจในตัวเอง
ทว่า หนึ่งในความจริงที่เกิดขึ้นก็คือ ไม่ว่าจะได้รับผิดชอบสอนวิชาที่โปรดปราณมากเพียงใด ครูบางคนก็ยังไม่เคยได้รับความสุขจากอาชีพนี้เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากภาระงานที่มีมากกว่าการสอน ซึ่งรวมไปถึงการกิจกรรม การประชุม และงานอื่นๆ ที่ไม่รู้จบ
กระทรวงศึกษาธิการวัฒนธรรมกีฬาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่นค้นพบว่าเมื่อปีที่ผ่านมา มีครูรวม 5,077 คนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะซึมเศร้าและต้องหยุดพักจากการทำงาน ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าถึง 186 คน ทั้งยังเป็นจำนวนที่สูงสุดในรอบ 4 ปี
ในจำนวนคุณครู 5,077 คนที่หยุดพักงาน มีสัดส่วนของครูโรงเรียนประถมศึกษาถึง 2,333 คน เทียบกับคุณครูโรงเรียนมัธยมที่มีจำนวน 1,384 คน
เมื่อแบ่งสัดส่วนตามภูมิภาคแล้วพบว่า 3 อันดับแรกของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ โตเกียว โอซาก้า และไอจิ (ตามลำดับ)
ร้อยละ 33 ของครูที่ถูกใช้ให้ทำงานหนักเดินไป ต้องใช้เวลาพักฟื้นสูงสุดถึง 6 เดือน ในขณะที่ร้อยละ 13 รู้สึกหมดไฟในการสอนจนต้องหยุดพักนานกว่า 2 ปี
มีบุคลากรมากกว่า 1,023 คนที่ต้องทนทุกข์กับความทรมานจากโรคซึมเศร้าและลาออกจากการสอนเมื่อปีที่ผ่านมา
Makane Kaoruko หัวหน้าแผนกจิตเวชโรงพยาบาล Sanraku กล่าวว่า
“เหล่าคุณครูกำลังประสบกับภาวะซึมเศร้าเรื้อรัง เนื่องจากภาระงานที่ทางโรงเรียนต้องการ แม้หลังจากหยุดพักและกลับไปสอนแล้ว แต่บางคนก็พบว่าความกดดันมันท่วมท้นจนต้องหยุดงานอีกครั้ง และเราต้องแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน”
ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยรวมพวกเขาคิดว่า อาจเพราะอัตราการเกิดที่น้อยลงของจำนวนประชากรประเทศญี่ปุ่น ทำให้ไม่มีบุคลากรที่เพียงพอจะรับมือกับภาระในระบบการศึกษา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมา
ที่มา: soranews24