ในส่วนของวันนี้ก็นึกว่าเป็นเนชั่นแนลจีโอกราฟิกเลยทีเดียว ขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองลึกลับใต้ดินในประเทศตุรกีกันต่อเลยล่ะกัน อิอิ ติดลมจริงอะไรจริง ลองมาดูกันเลยนะครับ
เมืองที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมกันวันนี้คือ “เดอรินกูยู” (Derinkuyu) เป็นเมืองใต้ดินในประเทศตุรกีที่ถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อปี 1960 โดยภายในเมืองมีลักษณะเป็นอุโมงค์สลับซับซ้อนยาว 8 กิโลเมตร และสามารถเชื่อมไปยังเมืองใต้ดินอีกแห่งหนึ่งได้อีกด้วยนั่นคือ Kaymakli
“เดอรินกูยู” (Derinkuyu)
ภายในอุโมงค์ถูกสร้างและออกแบบให้มีช่องระบายอากาศกว่า 15,00 ช่อง เพื่อให้อากาศไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา
ทั้งภายในอุโมงค์ยังดูทันสมัยเป็นอย่างมาก เพราะมีทั้งที่เก็บน้ำ ร้านค้า ห้องพัก ห้องเรียน ห้องเก็บไวน์ คอกม้า โบสถ์ พื้นที่สาธารณะ รวมถึงที่เก็บศพอีกด้วย
ทั้งยังมีประตูที่ทำจากหินทรงกลมซึ่งสามารถเปิดปิดได้จากทั้งภายนอกและภานในอย่างรวดเร็ว และแน่นอนทางน้ำสำหรับใช้สอย
พื้นที่ภายในอุโมงค์ใต้ดินสามารถรองรับผู้อาศัยได้มากกว่า 20,000 คนเลยทีเดียว!!!
และหลังจากที่นักโบราณคดีมาสำรวจก็พบว่า เมืองใต้ดินแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นก่อนคริสตกาลเสียอีก!!!
โดยนักโบราณคดีสามารถสำรวจความลึกได้เพียงแค่ระดับ 40 เมตรเท่านั้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าอุโมงค์แห่งนี้อาจจะมีความลึกอยู่ที่ระดับ 85 เมตรก็เป็นได้…
นอกจากนี้นักโบราณคดีนังคาดว่า อุโมงค์แห่งนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่หลบภัย หรือป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าอื่นๆ
แต่ที่เป็นปริศนาและน่าสงสัยมากคือ คนในยุคนั้นมีความรู้ไม่เพียงพอที่จะสร้างเมืองใต้ดินแห่งนี้ได้แน่นอน!!!
นครนี้จึงเป็นปริศนาอยู่ทุกวันนี้ว่า แท้จริงแล้วใครเป็นผู้สร้างเมืองใต้ดินแห่งนี้กันแน่? แต่เชื่อกันว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวเพราะลำพังแค่การเอาตัวรอดเบื้องต้นมนุษย์ยุคนั้นยังไม่ค่อยรู้เลย นับประสาอะไรกับการสร้างเมืองล้ำสมัยขนาดนี้!!!
ลองมาชมภาพบรรยากาศของเมืองกันได้เลย
.
.
.
.
.
.
.
ถึงปัจจุบันนี้จะมีวิทยาการที่ล้ำหน้าและล้ำสมัยมากแค่ไหน บางเรื่องเราก็ไม่สามารถหาคำตอบได้จริงๆ ก็ต้องรอวิทยาการที่ก้าวหน้ากว่านี้อ่ะเนาะ…
Source: Clipmass