บนโลกใบนี้มักจะซ่อนเร้นความอัศจรรย์ต่างๆของธรรมชาติเอาไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่สวยงามจนน่าอัศจรรย์ สิ่งที่น่ากลัว แต่กระนั้นแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมเหล่านี้มันก็น่าอัศจรรย์สำหรับมนุษย์อย่างเราๆ ในวันนี้ Scholarship.in.th จะพาเพื่อนๆไปพบกับสถานที่น่าอัศจจรย์อีกแห่งหนึ่งนามว่า “Dry Valley” ครับผม
Dry Valley หรือหุบเขาแห่งแล้งแห่งนี้ เป็นทะเลทรายแห้งแล้ง มีขนาดพื้นที่กว่า 4,800 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเอนตาร์กติกา แถบขั้วโลกใต้ โดยพื้นที่แห่งนี้เป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งมากๆ ไม่มีความชื้น และเป็นสถานที่แห่งเดียวที่ไม่หิมะ ไม่มีน้ำแข็งปกคลุม ชั้นของหินปกคลุมไปด้วยก้อนกรวด ที่เต็มไปด้วยออกไซด์ของเหล็กซึ่งก็คือ “สนิม”
ทำให้น้ำตกที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้นมีสีเหมือนเลือด จนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดทั้งสิ้นอยู่ในบริเวณนี้ แต่กระนั้นทัศนียภาพในสถานที่แห่งนี้ ช่างเป็นสถานที่ที่น่าสนใจ เพราะเสมือนว่าอยู่ดาวอังคาร ซึ่งเป็นสาเหตุให้นักวิทยาศาสตร์ต่างพยายามศึกษาเปรียบเทียบบริเวณนี้ ว่าหากมีสิ่งมีชีวิตอยู่ ก็แสดงว่าดาวอังคารน่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกัน (โดยส่วนใหญ่แล้ว สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ค้นเจอก็มีเพียงแบคทีเรียบางชนิด) เท่านั้น
นอกจากแอนตาร์กติกาจะเป็นสถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลกแล้ว มันยังเป็นสถานที่ที่มีน้ำมากที่สุด และมีลมกระโชกรุนแรงที่สุดในโลกอีกด้วย โดยคุณจะพบน้ำจืด 70 เปอร์เซ็นต์ ของโลกได้ที่นี่ในรูปของน้ำแข็ง และความเร็วลมที่นี่ก็รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกกันมาเลยทีเดียว
ลักษณะพิเศษของหุบเขาแห้งของแอนตาร์กติกาเกิดขึ้นจากสายลมพัดลงเขา (katabatic wind) ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่ออากาศที่หนาวเหน็บ และหนาแน่นถูกพัดลงมาจากภูเขาด้วยอิทธิพลของแรงโน้มถ่วง ความเร็วลมดังกล่าวอาจรุนแรงได้ถึง 322 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ความชื้นทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของน้ำ น้ำแข็ง และหิมะ ระเหยไปจนหมด
ก็ไม่น่าเชื่อนะครับว่า ทวีปแอนตาร์กติกาจะเป็นสถานที่ที่แห้งแล้งถึงเพียงนี้ >_<
วันนี้ขอลากันไปเพียงเท่านี้ แล้วกลับมาพบกับวาไรตี้ดีๆอัพเดททุกวันกับ Scholarship.in.th กันนะครับ
ที่มา moe