แน่นอนว่าในสถานการณ์ทั่วไป ‘การแนะนำตัว’ ในภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่ทุกคนที่สนใจในการศึกษาต่อที่ต่างประเทศ หรือการทำงานในบริษัทต่างชาตินั้นต้องพบเจอ
หลายๆ คนอาจจะประหม่า ปะติดปะต่อประโยคหรือรูปแบบการแนะนำตัวไม่ถูกต้อง วันนี้เราจึงมีสถานการณ์การแนะนำตัวอย่างเป็นทางการในภาษาอักฤษมาฝาก รวมถึงเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่นำไปใช้ได้จริงได้อย่างแน่นอน :D
♦ ประโยคการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
1. ระหว่างอาจารย์กับนักศึกษา
JAMES: Good morning, Professor Austin, how are you doing?
PROFESSOR AUSTIN: Good morning, James. I am doing well. And you?
JAMES: I’m great, thank you. This is my friend Emma. She is thinking about applying to this college. She has a few questions. Would you mind telling us about the process, please?
PROFESSOR AUSTIN: Hello, Emma! It’s a pleasure to meet you. I’m more than happy to speak with you. Please stop by my office next week.
EMMA: It’s a pleasure to meet you, professor. Thank you so much for helping us.
PROFESSOR AUSTIN: Don’t mention it. Hopefully, I will be able to answer your questions!
เกร็ดน่ารู้
– การทักทาย good morning/good afternoon/good evening นั้นถูกใช้ในเวลาที่แตกต่างกัน good morning ใช้ทักทายช่วงเช้า, good afternoon ใช้ทักทายช่วง 12.00 น. เป็นต้นไป และ good evening มักใช้หลัง 18.00 น. หรือหลังพระอาทิตย์ตก
– ยกเว้น “Good night” ที่ไม่ใช่คำทักทายแต่มักใช้เพื่อบอกลาในเวลากลางคืนและบอกราตรีสวัสดิ์
– “Don’t mention it” มีความหมายเดียวกับ “You’re welcome.” หรือ “ด้วยความยินดี”
2. ระหว่างการทำงาน
MARGARET: Mr. Wilson, I’d like you to meet Dr. Edward Smith.
MR. WILSON: It’s nice to meet you, Dr. Smith.
DR. SMITH: Pleasure to meet you, too.
MARGARET: Dr. Smith is an economist. He just finished writing a book on international trade.
MR. WILSON: Oh? That’s my field, too. I work for the United Nations.
DR. SMITH: In the Development Program, by any chance?
MR. WILSON: Yes. How did you guess?
DR. SMITH: I’ve read your articles on technical assistance. They’re excellent.
เกร็ดน่ารู้:
– “Mr. Wilson, I’d like you…” ในประโยคนี้ “I’d like” ย่อมาจาก “I would like” มีความหมายเช่นเดียวกับ “I want”
– “Dr. Smith is an economist.” การออกเสียงประโยคนี้ให้ถูกต้องตามหลักเจ้าของภาษานั้นต้องเน้นคำที่ 2 ของคำ economist ดังนี้ e-CON-o-mist
– “He just finished writing” โดย just นั้นมักจะใช้เพื่อแสดงถึงอดีตที่พึ่งผ่านมาไม่นาน สามารถแสดงใช้ได้กับทั้ง simple past tense และ present perfect tense เช่นกัน
– “Development Program” เมื่อ 2 คำมผสมกันนั้นจึงเกิดเป็น compound noun ซึ่งคำที่ควรเน้นในวลีนี้ได้แก่ “development”
– “By any chance?” มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า “possibly” หรือ “เป็นไปได้ไหม” โดยในประโยคนี้มักจะออกเสียงสูงตรงคำสุดท้ายอย่าง chance เพื่อต้องการคำตอบแบบ yes/no questions
หวังว่าข้อมูลและเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาภาษาอังกฤษทุกคนนะ! อย่าลืมหัดพูดและนำไปใช้จริงในสถานการณ์จริงด้วยล่ะ จะช่วยต่อยอดสกิลภาษาให้เชี่ยวชาญได้มากขึ้นอย่างแน่นอน : )
ที่มา: americanenglish