ตุรกีอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก ทั้งยังเป็นสถานที่ที่นักศึกษาต่างชาตินิยมเดินทางเพื่อไปเรียนต่อ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการไปเรียนต่อยังประเทศตุรกี นี่คือข้อมูลที่คุณควรรู้เพื่อการเตรียมตัวให้พร้อมแบบ 300%
ลักษณะภูมิอากาศ:
เนื่องจากตุรกีเป็นประเทศที่มีลักษณะเป็นที่ราบเปิดโล่งและภูเขา แม้ว่าจะมีพื้นที่ของชายฝั่งทะเล แต่ก็ทำให้มีสภาพอากาศที่หลากหลาย
ตามปกติแล้วตามเมืองใหญ่อย่างอิสตันบูลจะมีอุณหภูมิสูงเฉลี่ย 29 องศาเซลเซียสในเดือนสิงหาคม และอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 3 องศาเซียลเซียสในช่วงเดือนมกราคม
ทว่าในแถบภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนและอนาโตเลียตะวันออกเฉียงใต้อุณหภูมิอาจสูงถึง 35 องศาเซลเซียสและต่ำสุดในอังการาสามารถลงไปได้ถึง -7 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
วัฒนธรรม:
ตุรกีมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาช้านาน ไลฟ์สไตล์ของชาวตุรกีสมัยใหม่ ผู้คนที่มีความเชื่อและประเพณีต่างๆ สามารถอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน เครื่องแต่งกายที่นิยมมีตั้งแต่เสื้อผ้าแบบตะวันตกเช่นกางเกงยีนส์ไปจนถึงชุดราตรีหรูหราและเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมที่มีผ้าพันคอและหมวกหลากสี
ค่าครองชีพ:
ค่าครองชีพในตุรกีเรียกได้ว่าไม่สูงมากนัก จัดอยู่ในเกณฑ์ที่นักเรียนต่างชาติสามารถจ่ายไหว โดยเฉลี่ยแล้วค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 400-500 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 12,000 – 15,000 บาท) ต่อเดือนสำหรับค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
ส่วนค่าหนังสือและค่าธรรมเนียมอื่นๆ จะอยู่ที่ประมาณ 150 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 4,500 บาท) ต่อภาคเรียน เพื่อลดค่าใช้จ่าย ตามปกติมหาวิทยาลัยจะจัดหอพักหรือที่พักอื่นให้กับนักศึกษาต่างชาติเพื่อสนับสนุนในส่วนนี้
การศึกษาในระดับอุดมศึกษา:
การศึกษาในระดับอุดมศึกษาของตุรกีนั้นจะแบ่งออกเป็นระดับปริญญาตรี โท และเอก นอกจากนี้หากเป็นการศึกษาอนุปริญญาวิศวกรรมขั้นสูงก็จะได้รับวุฒิเทียบเท่ากับระดับปริญญาโท ซึ่งทั้งสองหลักสูตรต้องมีการทำวิทยานิพนธ์เหมือนกัน
มหาวิทยาลัยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือมหาวิทยาลัยของรัฐมีทั้งหมด 104 แห่ง และมหาวิทยาลัยเอกชนอีก 62 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้ มี 5 สถาบันที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 400 อันดับแรกของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกโดย Times Higher Education ปี 2012
การเรียนการสอนในระดับมหาวิทยาลัย:
หลักสูตรที่นี่ส่วนใหญ่จะสอนเป็นภาษาตุรกีแม้ว่าจะมีบางหลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษ เยอรมัน หรือฝรั่งเศสในการเรียนการสอนก็ตาม สำหรับนักศึกษาต่างชาติจะได้รับการฝึกอบรมด้านภาษาก่อนหนึ่งปีก่อนเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติส่วนใหญ่จะเปิดสอนที่มหาวิทยาลัยเอกชนโดยส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการสอน
ปัจจุบันมีนักศึกษาต่างชาติประมาณ 30,000 คนที่ลงทะเบียนในโปรแกรมการศึกษาในประเทศ อย่างไรก็ตามตุรกีมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนั้นเป็น 150,000 คน แม้ว่าหลักสูตรส่วนใหญ่จะเปิดสอนในสาขาวิชาการ แต่หลักสูตรที่ได้รับความนิยมสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การศึกษาเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก การศึกษาความหลากหลายทางวัฒนธรรม วิศวกรรม การจัดการธุรกิจ และการบริการ
ค่าเล่าเรียนและระยะเวลาของหลักสูตรการศึกษา:
ค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยรัฐที่สอนด้วยภาษาตุรกีอยู่ที่ประมาณ 100-200 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 3,000 – 6,000 บาท) สำหรับชาวตุรกีและนักเรียนที่มาจากประเทศที่กำหนด
ส่วนค่าเล่าเรียนนักศึกษานานาชาติต่อภาคการศึกษาที่มหาวิทยาลัยของรัฐที่มีการเรียนการสอนภาษาตุรกีจะอยู่ที่ประมาณ 300-600 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 9,000 – 18,000 บาท) แต่ทว่าค่าเล่าเรียนอาจสูงกว่าประมาณ 1.5 ถึง 2 เท่าในสถาบันของรัฐที่มีการสอนเป็นภาษาอังกฤษ
ส่วนมหาวิทยาลัยรัฐค่าเล่าเรียนตามปกติอาจสูงถึง 6,000-20,000 ดอลลาร์ฯ (ประมาณ 182,000 – 600,000 บาท) อย่างไรก็ตามในบางมหาวิทยาลัยได้มีการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนจำนวนมาก ซึ่งครอบคลุม 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของค่าเล่าเรียน
หลักสูตรปริญญาโทส่วนใหญ่จะใช้เวลาเรียนส่วนใหญ่ราว 2 ปี ทั้งนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละหลักสูตร เพื่อช่วยเหลือในค่าใช้จ่ายบางส่วนสำหรับงนักศึกษาต่างชาติ คุณอาจหางานทำร่วมกับมหาวิทยาลัยในฐานะนักวิจัย อย่างไรก็ตามนักศึกษาต่างชาติไม่สามารถทำงานในองค์กรอื่นๆ ในภาครัฐหรือเอกชนได้ตามกฎหมาย
การเริ่มภาคเรียน:
ภาคเรียนในตุรกีแบ่งออกเป็น 2 ปีการศึกษา เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนมิถุนายน
โอกาสหลังจบการศึกษา:
หลังจากสำเร็จการศึกษา นักเรียนต่างชาติมีโอกาสในการทำงานในฐานะนักวิจัยหรือเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่มีโปรแกรมการสอนเป็นภาษาอังกฤษ
นักเรียนชาวตุรกีและนักเรียนต่างชาติที่มีทักษะด้านภาษาตุรกีที่ดีจะเพิ่มโอกาสในการทำงานในอุตสาหกรรมอื่นเช่นกัน
พลเมืองที่ไม่ใช่ชาวตุรกีจะต้องได้รับใบอนุญาตทำงานเมื่อได้รับการเสนองานแล้วจึงจะสามารถทำงานได้
ข้อกำหนดในการขอวีซ่า:
นักเรียนต่างชาติจะต้องมีวีซ่านักเรียนและจะต้องได้รับวีซ่าก่อนเดินทางมาถึงตุรกีไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ยังต้องได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยตุรกีก่อนที่จะยื่นขอวีซ่านักเรียนที่สถานกงสุลตุรกีในประเทศของตน กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 8 สัปดาห์ ซึ่งหนังสือเดินทางของนักเรียนจะถูกประทับตราด้วยวีซ่านักเรียนได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติแล้วเท่านั้น
ประกันสุขภาพ:
มหาวิทยาลัยทุกแห่งในตุรกีจะมีศูนย์ให้การดูแลสุขภาพฟรีที่สถานพยาบาล อย่างไรก็ตาม การดูแลนี้โดยทั่วไปจะ จำกัดอยู่ที่บริการฉุกเฉินและการรักษาสำหรับเงื่อนไขเฉพาะเท่านั้น ดังนั้นนักศึกษาต่างชาติจึงควรซื้อประกันสุขภาพให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทางการแพทย์อื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีให้เลือกมากมาย
นักเรียนที่ถือใบอนุญาตให้อยู่อาศัยนานกว่า 6 เดือนจะถูกลงทะเบียนที่สถาบันประกันสังคมของตุรกี (SGK) และจะต้องได้รับและชำระเงินสำหรับนโยบายประกันสุขภาพในท้องถิ่น
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยเป็นแนวทางที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อในประเทศตุรกีนะ :)
ที่มา: masterstudies