มหาวิทยาลัยในประเทศฝรั่งเศสเสนอเพิ่มหลักสูตรภาษาอังกฤษ เพื่อดึงดูดนักศึกษาต่างชาติมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีจำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นอีก 50 เปอร์เซ็นต์ในอีก 10 ปีข้างหน้า
ตามที่ Reuters รายงาน นายกรัฐมนตรี Edouard Philippe กล่าวว่าประชากรนักศึกษาต่างชาติลดลงร้อยละ 8.5 ระหว่างปี 2011 – 2016 เนื่องจากการเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากเยอรมนี รัสเซีย แคนาดา และจีน
Philippe กล่าวว่า “ในหลายประเทศกำลังสร้างยุทธศาสตร์การดึงดูดความสนใจระดับโลก ด้วยการเชื่อมโยงการศึกษา ตลาดงาน และการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน ซึ่งนั่นสามารถอธิบายถึงอิทธิพลของเอเชียหรือประเทศอื่นๆ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราต้องต้อนรับนักศึกษาชาวต่างชาติให้มากขึ้น ”
พวกเขาวางนโยบายที่จะทำให้ระเบียบการขอวีซ่านักเรียนง่ายขึ้น พร้อมช่วยสนับสนุนค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมสำหรับนักศึกษาที่อยู่นอกเขตเศรษฐกิจยุโรป เพื่อให้พวกเขาได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป
Reuters ยังรายงานด้วยว่า ค่าเล่าเรียนในปัจจุบันที่ฝรั่งเศสอยู่ที่ประมาณ 195 เหรียญต่อปีสำหรับหลักสูตรปริญญาตรี ซึ่งเท่ากับที่นักเรียนในประเทศฝรั่งเศสต้องจ่าย นั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้นักเรียนจากประเทศอื่นเข้าใจว่าพวกเขาได้รับหลักสูตรที่คุณภาพต่ำกว่า
เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2019 นักเรียนที่มาจากนอกสหภาพยุโรปจะต้องจ่ายเงินจำนวน 3,000 เหรียญสำหรับหลักสูตรปริญญาตรี โท และเอก
Philippe อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “นั่นหมายความว่าฝรั่งเศสจะยังคงให้ความช่วยเหลือในค่าใช้จ่าย 2 ใน 3 ของค่าธรรมเนียมที่นักเรียนต้องชำระ ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่า 8,000 – 13,000 ยูโร ซึ่งเป็นอัตราที่ต้องจ่ายในสหราชอาณาจักร”
ความพยายามที่จะผลักดันให้ประเทศฝรั่งเศสกลายเป็นที่หมายยอดฮิตทางการศึกษาดูเหมือนจะเริ่มได้ผล เนื่องจากจำนวนนักศึกษาต่างชาติในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 4.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ที่มา: masterstudies