ในบทความล่าสุดของ Huffington Post ได้กล่าวถึงเกี่ยวกับความแตกต่างที่สำคัญระหว่างหนุ่มสาว Gen Z และ Gen Y ว่า
คนหนุ่มสาวในอนาคต มีแนวโน้มที่จะมีตัวเลือกทางการศึกษามากกว่าในปัจจุบัน และในที่สุด พวกเขาอาจหันไปเลือกบทเรียนออนไลน์ที่มีคุณภาพ อย่างเช่น ed ซึ่งตอบสนองในสิ่งที่พวกเขาต้องการและราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับทางเลือกอื่นๆ
ในขณะนี้ สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับการศึกษาเกี่ยวกลุ่มคน Gen Z มากขึ้น และนี่คือข้อสังเกตที่พวกเขาได้ค้นพบ
ความก้าวล้ำยิ่งกว่า Gen Y
คนทั่วไปเข้าใจว่าในยุคนี้ เป็นยุคของกลุ่มคน Gen Y ทั้งที่จริงแล้วโลกกำลังเข้าสู่ยุคของคน Gen Z ซึ่งในหลายๆ ด้าน คนกลุ่มนี้มีความแตกต่างกับคนใน Gen Y อย่างสิ้นเชิง ซึ่งความเข้าใจในจุดนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเพื่อหาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ในแวดวงการศึกษาพบว่ากลุ่มคน Gen Z มีแนวโน้มที่จะลงทะเบียนมหาวิทยาลัยน้อยลงเมื่อเทียบกับคน Gen Y (โดยใช้ตัวอย่างเปรียบเทียบจากจำนวนคนที่ลงทะเบียนในมหาวิทยาลัยอังกฤษ และสกอตแลนด์จะพบว่า Gen Z ลงทะเบียนเพียง 1/4 ในขณะที่ Gen Y ลงทะเบียน 1/3)
นอกจากนี้ Gen Z ยังไม่ได้มุ่งเป้าหมายไปที่การสำเร็จการศึกษาอีกต่อไป ร้อยละ 64 ของคนกลุ่มนี้เผยว่า “การมีรายได้สูง” เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของชีวิต
คนกลุ่มนี้มักมองหาแนวทางการเรียนที่ใช้เวลาน้อยกว่า ได้ประสิทธิภาพมากพอจะต่อยอดเพื่อทำงานในด้านที่สนใจและมีรายได้ดี ทั้งยังสนใจการเรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นบางส่วนก็ยังสนใจการเรียนรู้ร่วมกับผู้อื่นอยู่บ้าง
คน Gen Z กำลังมองหาช่องทางแห่งความสำเร็จนอกเหนือไปจากการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย โดย 61% ของกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายเผยว่าพวกเขาต้องการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต ในขณะที่อีก 72% อยากเริ่มทำธุรกิจของตัวเองตั้งแต่วันนี้
เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของเด็กรุ่นใหม่ Gen Z นั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่คาดหวังการทำงานในองค์กรมากเท่าที่ คน Gen Y เคยมี แต่ทุกคนต่างก็อยากเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดูมีแนวโน้มต่อยอดละสร้างรายได้ที่มากกว่า
นั่นทำให้มุมมองที่มีต่อการศึกษาเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขามองว่า การศึกษาในสถาบันเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้การเริ่มต้นธุรกิจล่าช้า และหันไปสนใจบทเรียนออนไลน์ที่สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ ไปพร้อมๆ กับการเริ่มต้นเส้นทางที่วางไว้
ทั้งนี้ ในอนาคต เราอาจเจอรูปแบบสังคมที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก เมื่อคนกลุ่มนี้ก้าวเข้ามาเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนโลก
ที่มา: bachelorstudies