ลองจินตนาการถึงชีวิตที่ต้องลุยน้ำไปโรงเรียน วางหนังสือไว้บนศีรษะ ลัดเลาะผ่านน้ำและป่าชายเลน พลางเงยหน้าหนีน้ำเพื่อให้หายใจได้สะดวก
แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องลำบากมาก แต่การเดินทางเช่นนี้เกิดขึ้นจริงกับเด็กบางกลุ่มในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งขณะนี้องค์กรการกุศลได้เข้ามาช่วยเหลือแล้ว โดยทำการจัดหาเรือให้กับคนในชุมชนได้ใช้คมนาคม
มูลนิธิเรือสีเหลืองแห่งความหวัง (Yellow Boat of Hope Foundation) ก่อตั้งขึ้นจากแนวคิดเล็กๆ บนโซเชียลมีเดีย เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีก็ได้กลายเป็นองค์กรการกุศลที่เข้าไปให้การช่วยเหลือนักเรียนจากทั่วประเทศ
โดยชุมชนแรกที่มูลนิธิให้ความช่วยเหลือคือชาวประมงและเกษตรกรผู้ปลูกสาหร่ายทะเล ซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่นอกชายฝั่งเมืองซัมบวงกาซิตีซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ยากจนของเกาะมินดาเนา
เหล่าเด็กๆ ต้องลุยน้ำประมาณหนึ่งกิโลเมตรเพื่อไปโรงเรียน หากระดับน้ำสูงขึ้นจากการเดินลุยก็ต้องเปลี่ยนมาว่ายน้ำแทน
Jay Jaboneta ผู้ก่อตั้งองค์กรการกุศลกล่าวว่าการเดินทางเช่นนี้มันอันตรายและไม่ปลอดภัยเลย แม้ว่าพวกเขาจะว่ายน้ำเก่งก็ตามที แต่เด็กหลายคนก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น
โดยการเดินทางผ่านน้ำเช่นนี้ เด็กๆ จะต้องห่อหนังสือและชุดนักเรียนไว้ในถุงพลาสติกเพื่อป้องการเปียกชื้น
โชคดีที่มูลนิธิได้มองเห็นปัญหาของเด็กๆ จึงทำการมอบเรือสนับสนุน ซึ่งตัวเรือทั้งลำจะทาทับด้วยสีเหลืองสดใสเพื่อให้สอดคล้องกับสีของรถโรงเรียนในประเทศ
เรือลำเล็กมีราคาประมาณ $200 (หรือราวๆ 6,000 บาท) สามารถรองรับเด็กได้ 6-8 คน
ด้วยความที่องค์กรการกุศลแห่งนี้มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทางมูลนิธิจึงดำเนินโครงการอื่นๆ ต่อเพื่อช่วยเหลือชุมชนที่ยากจน หรือชุมชนที่อยู่ห่างไกลการศึกษา
ในบางโครงการพวกเขาจะทำการสร้างหอพักให้กับนักเรียนที่ต้องเดินทางไปโรงเรียนหลายชั่วโมง หรืออย่างโครงการล่าสุดพวกเขาก็ได้บริจาคเรือลำใหญ่ที่มีอุปกรณ์การศึกษาเพื่อให้คุณครูสามารถนำไปใช้ยังชุมชนที่อยู่ห่างไกลและใช้เป็นห้องเรียนเคลื่อนที่
นับว่าเป็นมูลนิธิที่ริเริ่มขึ้นมาจากสื่อสังคมออนไลน์จนกระทั่งเติบโตเรื่อยๆ และสามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดแก่สังคมได้อย่างแท้จริง
ที่มา: bbc