กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 27 พฤศจิกายน 2019 – ประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบันกว่าหลายศตวรรษ ความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอันแน่นแฟ้นช่วยหลอมรวมผู้คนจากทั้งสองประเทศเข้าด้วยกัน และมีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันชุมชนชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ นับว่ามีจำนวนมากที่สุดและคาดว่าจะมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อุตสาหกรรมยานยนต์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และอุตสาหกรรมการเกษตร ถือเป็นภาคส่วนทางธุรกิจที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ได้เข้ามาตั้งรากฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในช่วงห้าทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าการลงทุนที่สูงถึง 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2018 เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในปี 2017 ที่มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ด้วยมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ชาวไทยเลือกไปเยือนมากที่สุด ซึ่งส่งผลให้คนไทยเกิดความคุ้นเคยกับชาวญี่ปุ่นและวัฒนธรรมอันดีงามระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนไทยจึงมีความต้องการที่จะไปศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากองค์การสนับสนุนนักศึกษาแห่งประเทศญี่ปุ่น (JASSO) ระบุว่า ประเทศญี่ปุ่นได้กลายเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยม ที่นักศึกษาต่างชาติสนใจเดินทางมาศึกษาต่อ โดยจำนวนนักศึกษาต่างชาติในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2019 และมีผู้สมัครเข้าเรียนใหม่อย่างน้อย 31,938 คนในปี 2018 ในส่วนของการศึกษาขั้นสูง มีนักศึกษาต่างชาติกว่า 140,000 คนเลือกมาเรียนต่อยอดการศึกษาขั้นสูงของตนที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2019 และเกือบ 10% ของนักเรียนไทยที่ศึกษาต่อในต่างประเทศ เลือกไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น
ปัจจุบันเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมต้องปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจ สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลาทำให้หลายบริษัทต่างมองหาพนักงานที่มีความสามารถมากขึ้น โดยเฉพาะความสามารถในด้านนวัตกรรมและทักษะทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับพนักงานยุคปัจจุบัน มหาวิทยาลัยโกลบิส ถือเป็นผู้นำทางการศึกษา ที่มีคอร์สเรียนอันทันสมัยเกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้เลือกหลายคอร์ส
คุณโยชิโตะ โฮริ, ประธานกรรมการบริหาร มหาวิทยาลัยโกลบิส กล่าวว่า “หลักสูตรของเรามุ่งเน้นไปที่การศึกษาเกี่ยวกับบทบาทใหม่ของธุรกิจในศตวรรษที่ 21 โดยผสมผสานความสามารถทางเทคโนโลยีเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ ที่มหาวิทยาลัยโกลบิส เรามองเห็นโอกาสที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในการศึกษาระดับ MBA แม้ที่ผ่านมาจะมีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจมากมาย แต่อุตสาหกรรมก็ยังคงดำเนินการคล้ายกับที่เคยมาตลอด ผมจึงเริ่มสงสัยว่าการศึกษาจะก้าวหน้าไปได้อย่างไรในอีก 20 ปีข้างหน้า และนั่นก็คือตอนที่พวกเราเริ่มมองหาโอกาสในการปรับเปลี่ยนแนวทางการเรียนการสอนด้วยนวัตกรรม”
มหาวิทยาลัยโกลบิสเสนอหลักสูตร บริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่สนใจศึกษาต่อผ่านหลักสูตรที่ทันสมัย เหมาะกับการบริหารงานในโลกยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนและเชื่อมต่อธุรกิจและการทำงาน
หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ภาคเรียนปกติระยะเวลา 1 ปี (Full-time MBA, 1-year program) เป็นการเรียนที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยทำการสอนระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ พร้อมกิจกรรมศึกษาดูงานก่อนจบการศึกษาเป็นเวลา 2-3 เดือน โดยมีฝ่าย Alumni & Career Office คอยให้คำปรึกษาและเตรียมความพร้อมให้นักศึกษารับงานที่สนใจในอนาคต นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรการเรียนแบบออนไลน์สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อเพื่อพัฒนาทักษะการบริหารธุรกิจ สร้างเครือข่าย และนำความรู้ที่ได้มาใช้ในชีวิตจริงระหว่างการทำงานได้จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรแบบภาคเรียนปกติหรือแบบออนไลน์ นักเรียนสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการเรียนในหลักสูตรที่ได้มาตรฐานขั้นสูงจากทั้งหลักสูตร คณาจารย์ผู้ทำการสอนและเครือข่ายเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โกลบิส