มีหลากหลายวิธีในการไปเป็นอาสาสมัครในฟาร์มที่ต่างประเทศ และหนึ่งในวิธีฮอตฮิตคือ WWOOFing หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า WWOOF ซึ่งเป็นคำย่อของ Worldwide Opportunities on Organic Farms เป็นองค์กรที่จับคู่อาสาสมัครกับโฮสต์ฟาร์มมาตั้งแต่ปี 1971
อาสาสมัครสำหรับองค์กรนี้จะถูกเรียกว่า WWOOFers โดยสามารถทำงานประมาณ 4-6 ชั่วโมง หรือมากถึง 6 วันต่อสัปดาห์เพื่อแลกกับที่อยู่อาศัยและค่าอาหาร
ปัจจุบัน WWOOFing สามารถทำได้ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก มีฟาร์มหลายพันแห่งให้เลือกพร้อมข้อเสนอมากมาย ตั้งแต่การทำงานในไร่องุ่นไปจนถึงการทอผ้า
หากคุณต้องการเป็น WWOOFer คุณต้องมุ่งมั่นที่จะทำงานหนักและใช้ชีวิตในแบบพื้นฐานที่คุณอาจไม่คุ้นเคยมาก่อน นั่นอาจทำให้คุณได้รับประสบการณ์ และมุมมองใหม่ๆ ทั้งด้านวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ที่อาจเปลี่ยนแปลงคุณไปตลอดกาล :D มาทำความรู้จัก WWOOFing ให้มากขึ้นกัน!
ประโยชน์ของ WWOOFing
– ได้พบปะผู้คนใหม่ๆ
– สำรวจประเทศที่ไม่เหมือนใคร
– ได้กินอาหารที่ยอดเยี่ยม
– เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
– ได้ฝึกภาษา
ประเทศยอดนิยมสำหรับ WWOOFing
ไอร์แลนด์: ทั้งประเทศถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและโดยทั่วไปแล้วสภาพอากาศค่อนข้างเย็นสบายตลอดทั้งปีคุณจึงสามารถ WWOOF ได้ในทุกฤดูกาล
อิตาลี: สามารถดื่มด่ำกับการผลิตไวน์ การเก็บเกี่ยวมะกอกหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนนี้
คอสตาริกา: เรียนรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ถือเป็นจุดหมายปลายทางของ WWOOFing ในฤดูหนาวที่สมบูรณ์แบบ
ฝรั่งเศส: เรียนรู้วิธีการอบขนมปังฝรั่งเศส หรือทำงานในทุ่งลาเวนเดอร์ทางตอนใต้ และไร่องุ่นมากมายสำหรับคนรักไวน์ทุกคน!
เนปาล: ได้ผสมผสานการทำฟาร์มเข้ากับการเดินทางผจญภัย ในวันหยุดสุดสัปดาห์อาจลองไปสำรวจเมืองกาฐมาณฑุ หรือดื่มด่ำกับเทือกเขาหิมาลัย
นิวซีแลนด์: นักผจญภัยแห่กันไปนิวซีแลนด์เพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ทั้งกระโดดบันจี้จัมพ์, ไต่เขา, ว่ายน้ำ, พายเรือคายัค, เล่นเซิร์ฟ, ดำน้ำ, ล่องแพ และกระโดดร่ม
แอฟริกาใต้: อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่เฟื่องฟูสำหรับผู้ที่หลงใหลในการตกปลา และได้ท่องโลกแห่งซาฟารี
สหรัฐอเมริกา: สถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับ WWOOFing เนื่องจากสภาพอากาศภูมิประเทศ และผลผลิตทางการเกษตรที่แตกต่างกัน
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจไป WWOOFing
– จะไปที่ไหน?
– ประเภทงานที่สนใจและอยากทำคืออะไร?
– สถานการณ์ความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อมโดยรอบ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
– ตารางการทำงานและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
– การขอวีซ่า
คำถามยอดนิยมเกี่ยวกับ WWOOFing
1. จะหาฟาร์มที่เหมาะสมได้อย่างไร?
อ่านบทวิจารณ์ของโฮสต์และตรวจสอบให้แน่ใจให้ดี บางครั้งโฮสต์อาจมีคอมเมนต์ดีๆ มากมาย แต่สภาพในฟาร์มอาจเลวร้ายในชีวิตจริง
2. WWOOFing มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ขึ้นอยู่กับว่าเลือกไปที่ประเทศอะไรและนานแค่ไหน เพราะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเตรียมการเดินทางด้วยตนเอง ค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ควรพิจารณาในการจัดทำงบประมาณมีดังนี้
– ค่าสมาชิก WWOOF ประมาณ $40 (ราว 1,200 บาท) ต่อประเทศต่อปี
– ค่าตั๋วเครื่องบิน
– การเดินทางไปยังฟาร์ม
– ค่าอาหารและเครื่องดื่ม
– กิจกรรมนอก WWOOFing
– การดำเนินการขอวีซ่า (หากจำเป็น)
– ประกันสุขภาพและการเดินทาง
– ค่าบริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต
3. WWOOFing จำกัดอายุหรือไม่?
ส่วนใหญ่ผู้เข้าร่วมต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในไอร์แลนด์และโปรตุเกส คุณสามารถ WWOOF ได้เมื่ออายุ 17 ปี แต่อาจต้องมีจดหมายอนุญาตจากผู้ปกครอง ในตุรกีคุณต้องอายุ 20 ปี จะเห็นได้ว่าไม่มีการจำกัดอายุสูงสุด แต่ทั้งนี้ WWOOFer ต้องมั่นใจว่ามีความสามารถทางร่างกายในการทำงานที่อาจต้องใช้แรงทั้งวัน
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครก็ตามที่สนใจเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในโลกกว้าง หากใครพบว่าหนทางนี้คือไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ได้ที่นี่เลย > wwoof
ที่มา: gooverseas & wwoof