Ellis Island คือสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1892 มันถือเป็นสถานีตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหรัฐอเมริกาที่เปิดให้บริการมานานกว่า 60 ปี ก่อนจะปิดตัวลงในปี 1954
Ellis Island ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำฮัดสัน ระหว่างนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ มีผู้อพยพมากมายหลั่งใหลมาที่นี่ เชื่อว่าเกือบร้อยละ 40 ของพลเมืองสหรัฐฯ ในปัจจุบันมีบรรพบุรุษอย่างน้อยหนึ่งคนได้ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองที่เกาะเอลลิสแห่งนี้
เมื่อเกาะเอลลิสได้ถูกสร้างขึ้น มันได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกา ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติแห่เข้ามา ณ ที่แห่งนี้ ทั้งยุโรปเหนือ ยุโรปใต้ ทั้งเยอรมนี ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และประเทศสแกนดิเนเวียต่างมากันอย่างไม่ขาดสาย
ผู้อพยพจากเนเธอร์แลนด์
ผู้อพยพจากโรมาเนีย
ผู้อพยพจากสโวาเกีย
ผู้อพยพจากกัวเดอลุป
ผู้อพยพจากอินเดีย
ในกลุ่มคนรุ่นใหม่เชื่อว่าชาวยิวได้หลบหนีจากการกดขี่ทางการเมือง พิษเศรษฐกิจ ความยากจนทั้งจากรัสเซีย ยุโรปตะวันออก และอิตาลีมา ณ ที่แห่งนี้ด้วยความหวังว่าจะได้พบกับโลกใหม่และชีวิตใหม่
หลังจากการเดินทางอย่างยากลำบากทางทะเล ผู้อพยพที่ได้มาถึงที่เกาะเอลลิ สต้องถูกติดแท็กและต้องลงทะเบียนข้อมูลของตนเองตั้งแต่ก่อนขึ้นเรือ
จากนั้นจะได้รับการตรวจสุขภาพ และตรวจสอบด้านกฎหมาย ว่าพวกเขาสามารถเข้าสู่สหรัฐอเมริกาได้หรือไม่
ขณะโดยสารอยู่บนเรือ
รอรับการตรวจสุขภาพ
จากปี 1900 ถึงปี 1914 เกาะเอลลิสมีผู้เข้าใช้บริการถึง 1,900 คนที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในทุกๆ วัน หลายคนผ่านได้โดยไม่มีปัญหา หลายคนอาจถูกกักกุมตัวนานเป็นวันหรือสัปดาห์
อย่างไรก็ตามต่อมาก็ได้มีข้อกฎหมายจำกัดจำนวนและสัญชาติของผู้อพยพ จนจำนวนของผู้อพยพลดน้อยลง และ Ellis Island ก็กลายเป็นศูนย์กักกันชั่วคราว
ครอบครัวที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและรอเรือมารับขึ้นฝั่ง
เฝ้ารออย่างมีความหวังเพื่อจะพบโลกใหม่
จากปี 1925 ที่ Ellis Island เปิดให้บริการ จนถึงปี 1954 ที่ปิดให้บริการ มีผู้อพยพกว่า 2.3 ล้านคนที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมายังนครนิวยอร์กซิตี้ และเชื่อว่ามากกว่าครึ่งก็มีลูกหลานอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ในปี 1976 เกาะเอลลิสถูกเปิดให้บริการอีกครั้งในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ตรวจคนเข้าเมือง ที่คล้ายคลึงสภาพเดิมและสามารถหาข้อมูลบรรบุรุษได้อีกด้วย
.
Ellis Island ถือได้ว่าเป็นจุดมุ่งหมายทั้งของนักท่องเที่ยวและของชาวอเมริกันนับล้านที่ต้องการรู้ประวัติความเป็นมาของบรรพบุรุษของตนเอง
หากได้ไปเยี่ยมเยือนนิวยอร์กหรือนิวเจอร์ซีย์ก็อย่าลืมไปแวะพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์แห่งนี้เพื่อดูให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้ง : )
ที่มา: history