ชื่อของ Deng Linjie เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อปี 2018 กับฉายา “หนุ่มนักสู้ชีวิต” ผู้ขาดทุนทรัพย์ในการศึกษาต่อ แต่ได้พยายามจนสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนั้นมาได้
เดิมที Linjie สามารถสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาได้ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จึงได้ไปขอกู้ยืมแต่ถูกปฏิเสธ ซึ่งในสถานการณ์นี้ หากเป็นคนอื่นคงถอดใจไปแล้ว แต่ Linjie ได้แสดงให้เห็นว่า อุปสรรคมีไว้เพื่อให้เอาชนะ ไม่ใช่ยอมแพ้
Linjie เกิดในปี 1992 ณ มณฑลซานซีในประเทศจีน ตัวเขานั้นได้แสดงออกถึงความสามารถด้านศิลปะตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยการเริ่มเรียนวาดภาพและเขียนอักษรจีนตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ อีกทั้งในวัย 10 ขวบ เขายังได้รับรางวัลชนะเลิศระดับชาติด้านการวาดภาพ จนกระทั่งเมื่ออายุได้ 18 ปี จึงได้เข้าศึกษาด้านมัลติมีเดียดีไซน์ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง
แม้จะมีพรสวรรค์อย่างน่าเหลือเชื่อ ทว่าชีวิตครอบครัวของเขากลับไม่ดีนัก พ่อและเเม่ของเขาหย่าร้าง และแม่ต้องส่งสียลูกเพียงลำพัง นั่นทำให้ Linjie ต้องดิ้นรนหาเงินส่งตัวเองเรียน
ในที่สุดก็ดูเหมือนว่าความพยายามของเขาจะสัมฤทธิ์ผล เมื่อในปี 2015 Linjie ได้รับโอกาสให้ได้เรียนต่อในสถาบันศิลปะ SVA ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงมาก แน่นอนว่ามันจะช่วยปูเส้นทางในอนาคตของเขาให้สดใส
แต่ปัญหาเดียวก็คือ Linjie มีเงินไม่พอสำหรับการเรียนต่อที่นี่ เนื่องจากค่าลงทะเบียนเรียนที่สูงถึง 108,626 เหรียญ (ประมาณ 3.4 ล้านบาท) แต่บ้านของเขานั้นมีทุนให้เพียง 31,036 เหรียญเท่านั้น (ประมาณ 984,000 บาท)
หลังจากที่ทั้งขอกู้ธนาคาร ขอการสนับสนุนจากสถาบันเดิม และวิ่งเต้นหาเงินทุกวิธีก็ยังไม่พอ แทนที่จะถอดใจ Linjie กลับคิดวิธีระดมทุนแบบที่น่าประหลาดใจ นั่นคือการ “ขายตัวเอง” เป็นสินค้าให้กับมหาชน
เขาประกาศระดมทุนเพื่ออุดหนุนการศึกษาผ่านทางช่องทางโลกออนไลน์ที่มีคนใช้งานมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศอย่าง WeChat และ Weibo พร้อมลงรายละเอียดว่าตัวเขานั้นจะจ่ายเงินคืนให้กับผู้สนับสนุนทุกคนภายในปี 2017 พร้อมดอกเบี้ยอีก 20%
ด้วยการประกาศครั้งนั้นทำให้มีการระดมทุนหลั่งไหลเข้ามาถึง 80,000 เหรียญ (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อรวมกับเงินที่มีอยู่ ทำให้เขาสามารถเข้าเรียนได้สมหวังดังใจ
เขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า
“รัฐบาลอาจยอมแพ้ที่จะส่งผมไปเรียน
มหาวิทยาลัยของผมก็อาจจะยอมแพ้ที่จะสนับสนุนผม
แต่ผมยอมแพ้ให้กับตัวเองไม่ได้“
ในช่วงเวลาหลังจากนั้นเขาใช้ชีวิตอย่างประหยัดที่สุดที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเขตเลือกตั้งของบรูคลิน ทุกเวลาว่างคือการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานพาร์ทไทม์ในห้องสมุดของสถาบัน ออกวาดภาพและขายการเขียนอักษรจีนตามข้างถนนให้กับคนที่สนใจ ช่วยพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาและได้ออกแบบเว็บไซต์สำหรับบริษัทต่างๆ รวมถึงได้ขายเสปิร์มให้กับธนาคารสเปิร์มของสหรัฐฯ อีกด้วย
.
ใช้เวลาเพียง 2 ปี Linjie สามารถเรียนจนจบ ทั้งยังคืนเงินให้กับผู้สนับสนุนได้เกือบครบทุกคน เว้นเพียงแต่บางส่วนที่ยังติดต่อพวกเขาไม่ได้
เขาได้โพสต์เรื่องราวของตัวเองเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ซึ่งความจริงแล้ว Linjie ไม่ใช่คนแรกและคนเดียวที่ประกาศระดมทุนแบบนี้ในอินเทอร์เน็ต นักศึกษาจีนอีกหลายคนก็ใช้ช่องทางออนไลน์ในการระดมทุนการศึกษาเช่นกัน
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะพยายามอย่างหนักเหมือนอย่างเขา และเรื่องนี้อาจสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ เพื่อนำไปสู่พลังที่จะต่อสู้กับอุปสรรคที่ขวางทางฝันอยู่ :)
ที่มา: scmp