ทั้ง Fewer และ Less ถือเป็นคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองคำนี้ก็ไม่สามารถใช้แทนกันได้ และหลายคนคงสับสนกับการเลือกใช้ทั้งสองคำนี้ในประโยค เป็นหนึ่งในหลักแกรมม่าร์ที่น่าสับสุนที่สุดในโลก!!
แต่มันก็มีข้อควรจำบางประการที่เห็นได้ชัด เป็นกฎง่ายๆ ที่ต้องรู้ให้ดีว่าตอนไหนควรใช้ Fewer และตอนไหนควรใช้ Less ไปเรียนภาษาอังกฤษแบบเข้าใจง่ายกันเถอะ! :D
“Fewer vs. Less” ควรใช้เมื่อไหร่?
ความยากนั้นอยู่ที่โดยพื้นฐานแล้วทั้งสองคำมักจะอ้างถึงส่งเดียวกัน นั่นคือ ‘ปริมาณที่น้อยกว่า’ และเป็นคำที่อยู่ตรงข้ามกับคำว่า ‘more’ (มากกว่า) แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถใช้แทนกันได้ ความแตกต่างระหว่าง “Fewer” และ “Less” มีดังนี้
1. Fewer อธิบายถึงคำนามที่นับได้ เช่น
– “He brought fewer water bottles than I did.” (Bottle = ขวดน้ำ เป็นคำนามที่นับได้)
– “She has fewer dollar bills in her purse than I do.” (Dollar bills = แบงค์ดอลลาร์ (มีหลายแบงค์) เป็นคำนามที่นับได้)
– “I ate fewer slices of pizza.” (Slices of pizza = พิซซ่าแบบตัดแบ่งเป็นชิ้น เป็นคำนามที่นับได้)
– “She saw fewer animals.” (Animals = สัตว์ (มีหลายสายพันธ์) เป็นคำนามที่นับได้)
2. Less ใช้กับคำนามที่นับไม่ได้ เช่น
– “He drank less water than I did on the hike.” (Water = น้ำ เป็นคำนามที่นับไม่ได้)
– “She has less money than I do.” (Money = เงิน เป็นคำนามที่นับไม่ได้)
– “I ate less pizza.” (Pizza = พิซซ่า เป็นคำนามที่นับไม่ได้)
– “She saw less wildlife on her vacation.” (wildlife = สัตว์ป่า เป็นคำนามที่นับไม่ได้)
ข้อยกเว้น
แต่เนื่องจากภาษาอังกฤษชอบทำสิ่งที่ยากจึงมีข้อยกเว้นในกรณีที่ต้องใช้ทั้งสองคำนี้คู่กับคำว่า ‘than’ เช่น less than หรือ fewer than
อย่างที่ทราบกันว่า fewer ใช้กับคำนามที่นับได้ แต่เมื่อเป็นคำนามที่นับได้ในเชิงของระยะเวลา, ระยะทาง หรือเงิน ในกรณีนี้ต้องใช้ ‘less than’ กับจำนวนเหล่านี้ทันที เช่น
– “The concert lasted less than two hours.” (ถึงแม้ว่า ‘two hours’ จะเป็นคำนามที่นับได้ แต่ประโยคนี้อ้างถึง ‘two hours’ เป็นผลรวมของเวลา ไม่ใช่ชั่วโมงแต่ละชั่วโมง จึงจำเป็นต้องใช้กับ ‘less than’)
– “The concert tickets cost less than 50 dollars.”
– “The venue was less than 20 miles away.”
แน่นอนว่าอาศัยการจำอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องหมั่นฝึกฝน ทำแบบฝึกหัด และหมั่นใช้คำศัพท์เหล่านี้บ่อยๆ ควบคู่กันไปด้วย หากผิดพลาดก็ถือว่าเป็นบทเรียน เพื่อเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเหล่านั้น และจำให้ได้ขึ้นใจ ^^’
ที่มา: rd