“การออกแบบ” ถือว่าเป็นอาชีพที่สามารถแตกแขนงได้อีกหลายสาขา ซึ่งปัจจุบันนับว่ามีอิทธิพลอย่างมากต่อสังคม สังเกตได้จากพัฒนาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับโลกของเรา ซึ่งปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการออกแบบนี่เอง
เชื่อว่าคงมีน้องๆ หลายคนที่มุ่งมั่นอยากไปเรียนด้านการออกแบบ แต่ด้วยความที่มีหลากหลายสาขาเหลือเกินจึงตัดสินใจเลือกยาก ถ้าอย่างงั้นลองมาศึกษาประสบการณ์ตรงจากคุณ Chanida Kanmuang ที่เรียนด้าน Jewellery Design จากประเทศอังกฤษ เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษากันค่ะ
ชีวิตนักเรียน Jewellery Design ที่ได้อะไรมากกว่าการออกแบบ
Name: Chanida Kanmuang
Course: MA DESIGN (JEWELLERY AND METALWORK)
University: Sheffield Hallam University
ทำไมถึงเลือกเรียนต่อด้าน Jewellery and Metalworks Design ที่ Sheffield Hallam
“นิเรียนที่ Sheffield Hallam University คณะ Jewellery and Metalworks
ก่อนที่จะมาเรียนที่นี่ นิจบศิลปากรคณะ Jewellery แล้วเรารู้สึกว่าเราอยากมาค้นหาอะไรใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับดีไซน์ แล้วอังกฤษก็เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์อยู่แล้ว
นิก็เลยเริ่มหาว่ามหาลัยไหนบ้างที่เปิดสาขานี้ แล้วนิก็ได้มาเจอที่ Sheffield Hallam University เพราะว่าเค้าจะมีชื่อเสียงในเรื่องของ Metalwork คือถ้าใครเคยได้ยินคือเมืองเชฟฟิลด์ จะเป็นเมืองที่ดังเรื่องการตีเหล็ก หรืออุตสาหกรรมด้านเหล็กในอังกฤษ นิก็เลยเลือกที่จะ apply เข้ามหาลัยนี้เพื่อที่จะเรียนที่นี่เลย
เพราะเรารู้สึกว่าบรรยากาศ สภาพแวดล้อมของเมือง Sheffield ที่เป็นเมืองที่มีสีเขียวเป็นธรรมชาติ การที่เรามาเรียนเรารู้สึกว่าเราอยากให้บรรยากาศรอบๆ ข้างไม่ต้องวุ่นวายมาก แล้วเราก็สามารถที่จะ enjoy our life ที่นี่ได้ ก็เลยเลือกที่นี่ค่ะ”
มีกิจกรรมเพิ่มเติมระหว่างที่น้องนิเรียนอีกมั้ยคะ
“ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก นิมีโอกาสได้ไปทำงานเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิ ได้มีโอกาสเอาวิชาที่นิเรียน Jewellery Design ไปสอนให้กับคนที่มีความพิการทางสมองหรือทางร่างกายก็ตาม ให้เค้าได้สามารถออกแบบเครื่องประดับแล้วก็ทำออกมาจริงๆ
แล้วนิก็เอางานของเค้าไปขายแล้วก็ต่อยอดรายได้ให้กับเค้า มันเหมือนเป็นการเพิ่มมูลค่าในการดำรงชีวิตให้กับเค้าน่ะค่ะ แล้วมันก็จะมีกิจกรรมที่อาจารย์เค้าเห็นว่าเราตั้งใจ เค้าก็จะชวนเราไปออกงาน ไปจัด exhibition ล่าสุดนิก็เอางานตัวเองไปประกวดแล้วก็ได้เลือกไปโชว์ มันก็เหมือนเป็น portfolio เป็น profile ที่ดีให้กับเรา ประทับใจมากค่ะ”
แล้วประโยชน์ที่น้องนิได้รับจากการเป็นนักเรียนที่นี่
“ที่ Sheffield Hallam University ให้ความรู้สึกอบอุ่นเวลาที่เรามาเรียน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ แล้วก็จริงๆ น่ารักตั้งแต่น้ายามหน้ามหาลัยแล้วค่ะ คือทุกคนแบบ friendly มาก การมาเรียนทุกๆ วัน ถ้าเรารู้สึกว่าเราอยากมาเรียนมันจะทำให้งานที่เราทำในแต่ละวันมันออกมาดีด้วย นั่นแหละค่ะมันเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเราไปเรียนแล้วเรารู้สึกไม่มีความสุขมันก็จะออกมาไม่ดี ก็เลยรู้สึกว่าที่นี่ให้สิ่งเหล่านั้นกับนิ มันเลยทำให้นิมีกำลังใจที่จะทำงานแล้วก็รู้สึกว่า”
อนาคตน้องนิวางแผนไว้ยังไงบ้างหลังจากเรียนจบที่นี่
“การที่เรามาเรียนอังกฤษมันก็จะมีอะไรหลายๆ อย่างที่แตกต่าง นิจะนำข้อดีจากสิ่งที่นิเรียน ป.โทนี่กลับไปใช้ ไปพัฒนาการเรียนการสอนที่บ้านเรา เพราะว่าก่อนนิมา นิก็ชอบงานสอนอยู่แล้ว รับจ๊อบทำงานเปิดโรงเรียนสอนเด็ก แล้วก็เรารู้สึกว่าเราอยากเอาตรงนี้ไปต่อยอด ให้มันมีคุณค่ามากขึ้น เป็นสตูดิโออะไรอย่างงี้ก็ว่าไป”
อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม : ชีวิตนักเรียน Jewellery Design จากคุณ Chanida Kanmuang
ข้อมูลมหาวิทยาลัย
Sheffield Hallam University ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1843 ปัจจุบันมีนักศึกษาจำนวนมากกว่า 34,000 คน จากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และเป็นอันดับ 6 มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร
มหาวิทยาลัยยังมีการจัดระบบดูแลนักศึกษาอย่างดีเยี่ยม โดยมี Sheffield Hallam’s Careers and Employability Cantre ที่คอยช่วยเหลือและแนะนำนักศึกษาในเรื่องการเขียน CV รวมไปถึงการสมัครงาน
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยได้รับการขนานนาม คือ The largest modern universities in the UK
สำหร้บใครที่สนใจเรียนต่อ Sheffield Hallam University สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก Hands On Education Consultants ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการในประเทศไทยได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ข้อมูลเพิ่มเติมของมหาวิทยาลัย: Sheffield Hallam University
ติดต่อ Hands On : Hands on